เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เซ็นทรัล เชียงราย ชวนเที่ยวชม 6 แลนด์มาร์ก ห้ามพลาด นำโดย “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” ที่ถักทอด้วยผ้าธรรมชาติ ต้นแรกและต้นเดียวในไทย ร่วมด้วยอุโมงค์พราวพันแสง, รังนก, โตยักษ์, สะพานผีเสื้อทอแสง และเพลิดเพลินไปกับ Night Market ตั้งแต่วันนี้ – 6 ม.ค.65 ณ ลานกาสะลอง
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ร่วมกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ (โครงการพัฒนาดอยตุง), จังหวัดเชียงราย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย, การท่องเที่ยวและกีฬาเชียงราย, องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย, เทศบาลนครเชียงราย, ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดเชียงราย (เกษตรที่สูง) จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว โดยรวบรวมไฮไลท์สำคัญของภาคเหนือมาไว้ในที่เดียว นำโดย นำโดย “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” ที่ถักทอด้วยผ้าธรรมชาติ ต้นแรกและต้นเดียวในไทย ร่วมด้วยอุโมงค์พราวพันแสง, รังนก, โตยักษ์, สะพานผีเสื้อทอแสง และเพลิดเพลินไปกับ Night Market ตั้งแต่วันนี้ – 6 ม.ค.65 ณ ลานกาสะลอง
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เผยว่า “การเติบโตไปคู่กับคนไทยและสังคมไทยอย่างยั่งยืน คือการเล็งเห็นคุณค่าและวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งตลอดมา เซ็นทรัลพัฒนา ได้ออกแบบศูนย์การค้าในจังหวัดต่างๆ โดยหยิบยืมเสน่ห์และกลิ่นอายท้องถิ่น ผสานเข้ากับดีไซน์งานสถาปัตยกรรมสู่การออกแบบที่ร่วมสมัย เช่น ที่เชียงราย เรามีการนำดอกกาสะลองมาออกแบบเป็นฟาซาดของศูนย์ฯ เพื่อสร้างศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ทันสมัย ใกล้ชิดกับชุมชน ใส่ใจในบริบทวัฒนธรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยปีนี้ยังถือเป็นโอกาสสำคัญที่เซ็นทรัลพัฒนาอยู่เคียงข้างคนไทยมายาวนานกว่า 40 ปี การออกแบบต้นคริสต์มาสหมอกพันวาครั้งพิเศษนี้ ต้องขอขอบคุณทางดอยตุง ที่ให้เราช่วยสนับสนุนและร่วมสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านและชนเผ่าต่างๆ บนดอย ผลิตวัสดุตกแต่งต้นคริสต์มาสจากวัสดุธรรมชาติที่ทำจากงานฝีมือล้วน ๆ เป็นงาน Craft Ornament ที่มาจากใจของพี่น้องชาวล้านนาที่แท้จริง
หม่อมหลวง ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปภัมภ์ เผยถึงแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อต้นคริสต์มาสหมอกพันวา ว่า “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา ตั้งชื่อตามความยาวของงานผ้าทอมือขนาด 1,000 วา หรือ 2,000 เมตร ที่เป็นการร่วมมือกันของชาวบ้าน กลุ่มชนเผ่าบนพื้นที่ดอยตุง ที่ใช้เวลาว่างมาร่วมแรงร่วมใจถักทอผ้า ส่วนคำว่า หมอก นำมาจากการที่จังหวัดเชียงรายจะเกิดปรากฏการณ์ชมหมอกที่สวยงาม ในช่วงตั้งต้นเทศกาลคริสต์มาส คือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึง มกราคม เป็นประจำทุกปี จึงตั้งชื่อดังกล่าวเพื่อสื่อถึงที่มาของต้นคริสต์มาสที่ออกแบบพิเศษต้นนี้ โดยมีการใช้วัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นและสื่อถึงการใช้ชีวิตทีเรียบง่ายและผูกพันกับธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ เถาสน ผีเสื้อสาน ไหมย้อมสี ผ้าฝ้าย กระดาษสา และหญ้าแฝก โดยมีการใช้สีสันที่สดใส ถ่ายทอดจากวัฒนธรรมเครื่องแต่งกายอัตลักษณ์แห่งชาติพันธุ์ของเชียงราย อาทิ อาข่า ลาหู่ ไทยใหญ่ ไทลื้อ ลัวะ และจีนยูนนาน สอดประสานกันในแต่ละชั้น เพื่อแสดงถึงความหลากหลายที่สามารถอยู่รวมกันได้อย่างกลมเกลียว มาพร้อมกับ “อุโมงค์พราวพันแสง” งานถักร้อยทอสานเส้นไผ่”
นอกจากนี้ยังได้สร้างสีสันเพิ่มเติมด้วยประติมากรรม “รังนกขนาดยักษ์” จากดอยตุง ยอดดอยแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์ โดยเป็นการนำไม้เมืองหนาวมาสานสลับไปมาอย่างนุ่มนวลสะท้อนอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นอันงดงาม ตกแต่งโครงสร้างให้โดดเด่นด้วยความแข็งแกร่ง เพื่อเป็นประติมากรรมที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์และคำอวยพร สื่อถึงความรัก ความอบอุ่นและความอุดมสมบูรณ์ของท้องถิ่นไทย และ “โตยักษ์” ประติมากรรมสื่อผสมรูปสัตว์มงคลตามความเชื่อท้องถิ่น สูงกว่า 9 เมตร รังสรรค์โดย “โลเล-ทวีศักดิ์ ศรีทองดี” ศิลปินผู้มีผลงานระดับท็อปของไทย ซึ่งนับเป็นสัตว์มงคลตามความเชื่อของชาวไทใหญ่ 1 ใน 6 ชนเผ่าบนดอยตุง พร้อมเลือกซื้อสินค้ามากมายหลากหลายสไตล์ใน “Night Market” สีสันกาสะลอง จัดเต็ม 100 ร้านดังพร้อมกิจกรรมการแสดงแบบล้านนาประยุกต์ ปิดท้ายด้วย “สะพานผีเสื้อทอแสง” พบกับหมู่มวลฝูงผีเสื้อนับพันที่เปล่งแสงระยิบระยับในยามค่ำคืน
นอกจากนี้เซ็นทรัล เชียงราย ยังจัดงาน “สีสันกาสะลอง” ต้อนรับลมหนาวขึ้น ในระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.64 – 5 ม.ค.65 ณ ชั้น 1 ลานกิจกรรม ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย
งานสีสันกาสะลอง จัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “เริงระบำประติมากรรมดอกไม้ The Harmony & Melody” โดยงานนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างสีสันและต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมารับลมหนาวภาคเหนือในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
ภายในงานได้รวบรวมไฮไลท์สำคัญของภาคเหนือมาไว้ในที่เดียว พร้อมสร้างสีสันด้วยการประดับประดาไม้ดอกนานาพันธุ์ในรูปแบบประติมากรรม พร้อมเผยแพร่พันธุ์ไม้เมืองเหนือให้เป็นที่รู้จัก โดยได้นำเทคนิคต่าง ๆ เข้ามาผสมผสานให้มีความน่าสนใจ โดยปีนี้ได้มีการผสานเรื่องราวทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ทรงคุณค่าแห่งล้านนา สร้างลวดลาย สีสัน และ อัตลักษณ์แห่งเชียงรายอย่างงดงาม
ภายในงานยังมีการจำหน่ายสินค้าชุมชนของเหล่าชาติพันธ์ต่าง ๆ งานหัตถกรรมชนเผ่าแบบวัฒนธรรมดั้งเดิม และ Eco-Item สไตล์ดอยตุง และ กิจกรรมเวิร์คช้อป อาทิ การเพ้นท์ลวดลายบนถ้วยชามเซรามิก เย็บสมุดกระดาษสา ปั้นดิน ทอผ้า จัดสวนถาด และอื่น ๆ รวมถึง กิจกรรมการแสดงของเหล่าชนเผ่าชาติพันธ์บนดอยตุง สนุกกับการละเล่นพื้นเมือง เดินบนไม้ต่อขา พร้อมชมการแสดงรำนก-รำโต แคนลาหู่ สะบ้าดอย และรำกลองยาวของชาวไทใหญ่ พร้อมกันนี้ยังมีร้านอาหารท้องถิ่น ส่งตรงจากดอยสู่ภาคพื้นดิน