วันอาทิตย์ ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.
ตร.ภาค2แก้ปัญหาต่างด้าว
จับเขมรครึ่งร้อย
ลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
กองกำลังผาเมืองเชียงราย
ตามตะครุบหม่องได้เพียบ
แรงงานต่างด้าวยังทะลักเข้าไทยอย่างต่อเนื่องตำรวจภูธรภาค 2 รับบัญชา “บิ๊กโจ๊ก”สกัดจับเขมรเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตเกือบครึ่งร้อย ขณะที่กองกำลังผาเมือง เชียงใหม่ ไล่ตะครุบหม่องได้อีกเพียบ
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 23 เม.ย.65 จากคำสั่งของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร.ที่กำชับมายัง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว นำกำลัง จนท.ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ชุดปฏิบัติการที่ 4 (นปพ) ออกสืบสวนติดตามจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อนชาวเขมร ที่ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามตะเข็บชายแดนช่องทางธรรมชาติ เพื่อไปส่งขายแรงงานในพื้นที่ชั้นใน ในเขตพื้นที่ชายแดน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
ต่อมา จนท.สืบทราบว่าจะมีขบวนการดังกล่าวลักลอบขนแรงงานเถื่อนขึ้นรถยนต์จำนวน3คัน มานัดเจอกันที่หลังร้านสะดวกซื้อ และบริเวณหน้าวัดไทยเจริญธรรม พื้นที่ ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว จึงนำกำลังมาดักซุ่ม และได้ตรวจพบรถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น สีดำ ทะเบียน ชห 5827 กทม.และรถยนต์กระบะ4ประตู ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ แชมป์ สีเทา ทะเบียน ขธ 4383 ระยอง มาจอดที่จุดนัดพบ หลังร้านสะดวกซื้อจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบรถยนต์อเนกประสงค์ อีซูซุ มิวเซเว่น สีดำฯ มีนายเชิท ซาท อายุ 49 ปี ชาวเขมร ถือพาสปอร์ตกัมพูชา เป็นผู้ขับขี่ ตรวจค้นภายในรถพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชานั่งอัดแน่นกันมาในรถจำนวน 16 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 9 คน ตรวจสอบไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย
ส่วนรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้แชมป์ สีเทา ทะเบียน ขธ4383 ระยอง มีนางจีริสุดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปีชาว จ.อุบลราชธานี เป็นผู้ขับขี่และมีนายถวิล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ผู้บอกทางนั่งคู่กันมาข้างหน้า ภายในกระบะรถพบกระเป๋าเสื้อผ้าและกระเป๋าสัมภาระของแรงงานเถื่อนชาวเขมรวางเรียงซ้อนกันมาเต็มกระบะท้าย จึงนำทั้งหมดมาตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกายตามมาตรการป้องกันโควิด ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสระแก้ว
จากนั้น จนท.อีกชุดได้เข้าตรวจค้นรถยนต์ กระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน 5 กด 6338 กทม.ที่ขับมาจอดหน้าวัดไทยเจริญธรรมฯ พบมีนายประเวช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี เป็นผู้ขับขี่ ตรวจค้นภายในรถพบมีแรงงานชาวกัมพูชานั่งอัดแน่นกันมารวม 20 คน เป็นชาย 18 คน หญิง 2 คน ตรวจสอบไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทยแต่อย่างใด จึงนำมาตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิตามมาตรการป้องกันโควิด ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมรถยนต์ของกลางจำนวน 3 คัน ผู้ต้องหานำพาชาวไทย 3 คน ผู้ต้องหานำพาชาวเขมร1คน และชาวเขมรลักลอบเข้าเมืองทั้งหมดรวม 36 คน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด จ.สระแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ก่อนหน้านี้เมื่อคืน เมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย.65 ที่ผ่านมา กกล.ผาเมือง โดย ร้อย.ม.2 ฉก.ม.3 ร่วมกับ บก.คปส.3 กกล.ผาเมือง จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจบริเวณบ้านผาหมี ซอย 1 หมู่ 6 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยจึงขอทำการตรวจค้นภายใต้มาตรการโควิด-19 ตรวจสอบเป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมาจำนวน 17 คน เป็นชาย 10 คน เป็นหญิง 7 คน จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า ได้ลักลอบเข้ามาเพื่อหางานทำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเสียค่าใช้จ่ายให้ผู้นำพาเข้ามาฝั่งไทยคนละ 20,000 บาท ทางหน่วยจึงได้ทำการควบคุมตัวและนำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งตำรวจ สภ.แม่สาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 23 เม.ย.65 กกล.ผาเมือง โดย มว.ม.3 ร้อย.ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.3 ร่วมกับ บก.คปส.3 กกล.ผาเมือง จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจบริเวณบ้านผาหมี ซอย 1 พิกัด หมู่ 6 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จึงขอทำการตรวจค้นภายใต้มาตรการ แล ตรวจสอบเป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมาจำนวน 39 คน เป็นชาย 19 คน เป็นหญิง 15 คน เป็นเด็กหญิง 5 คน
จากการสอบถามทั้งหมดให้การว่าได้ลักลอบเข้ามาจากประเทศเมียนมา เพื่อหางานทำในพื้นที่ กทม. และ จ.เขียงใหม่ โดยเสียค่าใช้จ่ายให้ผู้นำพาเข้ามาฝั่งไทย คนละ 26,000 บาท ทางหน่วยจึงได้ทำการควบคุมตัวและนำผู้ต้องหาทั้งหมด ส่ง ตม.แม่สาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.