‘วิสาร’ ฟ้อง ‘สามารถ’ คดีโพสต์หมิ่น เรียก 70 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ศาลจังหวัดเทิง อ.เทิง จ.เชียงราย นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน เขต 1 จ.เชียงราย และ ตัวแทนของนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีต ส.ส.จากพรรคเดียวกัน ปัจจุบันเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 3 จ.เชียงราย เดินทางมาที่ศาลกรณีที่นายวิสารฟ้องร้องนายสามารถข้อหาหมิ่นประมาท ณ สภ.ขุนตาล จ.เชียงราย เมื่อเดือนธันวาคม 2563 หลังจากนายสามารถพิมพ์ข้อความลงในไลน์กลุ่มอาสาประชา ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองใน อ.เมืองเชียงราย มีเนื้อหาส่วนหนึ่งกล่าวถึง ส.ส.เชียงราย คนหนึ่งที่กรีดข้อมือตัวเอง และมีข้อความอื่นๆ อีกหลายข้อความ โดยเป็นเหตุการณ์ในช่วงที่มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย
นายสามารถกล่าวว่า หลังจากมีการพูดคุยกันแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องกันว่าจะมีการนัดคุยกันอีกครั้งในวันที่ 10 มิ.ย. ทั้งนี้ หลังมีการฟ้องร้องแล้วตนไม่เคยพบกับนายวิสารอีก แต่ก็มีหลายคนที่พยายามเข้ามาเป็นคนกลางเจรจา กระนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ฟ้องเป็นสำคัญเพราะตนไม่ใช่ผู้ฟ้อง ส่วนสาเหตุที่มีการฟ้องร้องอาจมาจากเรื่องการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย ที่ผ่านมา
นายสามารถกล่าวว่า ก่อนประกาศผลเลือกตั้งทาง น้องยิ้ม-น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.เชียงราย ซึ่งเป็นลูกสาวของนายวิสารก็เคยไปร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่านางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ หรือนก นายก อบจ.เชียงราย คนปัจจุบัน สนับสนุนให้ตนไปเขียนข้อความดังกล่าวในกลุ่มไลน์อาสาประชา ซึ่งเป็นกลุ่มไลน์ภายในของตนว่าเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จตามกฎหมายเลือกตั้งทองถิ่น แต่ท้ายที่สุด กกต.ได้วินิจฉัยให้ยกคำร้อง เพราะไม่ได้ถือว่าเป็นการใส่ร้ายเพื่อทำให้เสียหายต่อคะแนนนิยม ตนจึงจะได้นำเรื่องนี้มายืนยันต่อศาลว่าตนไม่ได้เจตนา และบุคคลดังกล่าวถือเป็นบุคคลสาธารณะด้วย
ด้านทนายความซึ่งเป็นตัวแทนของนายวิสารระบุว่า คดีนี้ทางพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว ดังนั้น ศาลจึงได้เรียกสอบคำให้การและกำหนดประเด็นข้อพิพาทในคดี ขณะที่นายวิสารเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเป็นเงิน จำนวน 70 ล้านบาท ทำให้คดียังอยู่ในขั้นตอนที่จะต้องมีการไกล่เกลี่ยกันอีกรอบหนึ่ง ซึ่งคงต้องติดตามความคืบหน้ากันต่อไป ทั้งนี้ ข้อความที่มีการฟ้องร้องกันครั้งนี้มีความยาว แต่ส่วนหนึ่งระบุว่าอยู่เบื้องหลังกลุ่มผู้ชุมนุมของเยาวชน มีการเล่นการพนันแล้วเสีย มีการกรีดแขน ฯลฯ ซึ่งผู้ฟ้องเห็นว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่