คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
จับตาคดี 2คนร้ายชิงทอง – ท่ามกลางมรสุมโรคระบาดโควิด-19 ที่กระหน่ำหนุนเข้ามาทั้งสองรอบ ทำเอาเศรษฐกิจไทยดิ่งลงเหวชนิดยังไม่เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ คดี ลัก วิ่ง ชิง ปล้นก็เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะร้านทองกลายเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของคนร้าย
ดูวงจรปิดในร้าน
เช่นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 25 มกราคม ตร.โรงพักบ้านดู่ จ.เชียงราย นำโดยพล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.ภาสกร ณ พิกุล ผกก. พ.ต.ท.เทคนิค จันสี รองผกก.สส. ร.ต.อ.ชัยศักดิ์ เขื่อนขัน รองสว.(สอบสวน) นำกำลังสายตรวจ ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง ที่ร้านห้างทองเยาวราชสินทวี เลขที่ 149/1 บ้านต้นลุง หมู่ 11 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย
ตรวจที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 3 ชั้น 2 คูหา พบพนักงานร้าน 5-6 คน อยู่ในอาการตื่นตระหนก บริเวณกันสาดหน้าร้านพบรอยถูกอาวุธปืนยิงเป็นรู 2 รู ที่พื้นพบปลอกกระสุน 2 ปลอก
ขณะที่การสอบสวนผู้เสียหายเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ คนร้าย 2 คน ทำทีมาเป็นลูกค้าขอดูทอง เส้นละ 5 บาท พอได้โอกาส ได้ควักปืนขึ้นมาขู่คนในร้าน ส่วนคนร้ายอีกคนกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ทอง ไปกวาดสร้อยทองใส่ถุงที่เตรียมมา จากนั้นใช้ปืนยิงขู่หน้าร้าน 2 นัด และหลบหนีเข้าซอยทางเข้าหมู่บ้านต้นลุง ตรงข้ามตลาดบ้านดู่ โดยพบว่าคนร้ายใช้จยย.ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ยังไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เป็นพาหนะ เจ้าหน้าที่จึงรีบวิทยุสกัดจับแต่ไม่พบตัว
สอบถามผู้เสียหาย
ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายใช้เส้นทางเข้าหมู่บ้านต้นลุง ซึ่งเป็นทางลัดเลาะไปทางวัดบ้านดู่ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนบายพาสเลี่ยงเมืองได้ ส่วนมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นพนักงานร้านตรวจสอบแล้วมีทองรูปพรรณ 54 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
นาทีลงมือ
วันรุ่งขึ้น พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. เดินทางมาที่ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยพล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย นำทีมชุดคลี่คลายคดีพร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าร่วมเก็บหลักฐาน พร้อมประมวลภาพเหตุการณ์จากคำให้การของพยาน จนสามารถสรุปได้ว่าคนร้ายที่เข้าไปในร้านมีอยู่ด้วยกัน 2 คน โดยคนแรกเดินถือกระเป๋าเข้าไปเหมือนลูกค้าทั่วไป เมื่อสอบถามความต้องการก็ทำทีเป็นเดินเลี่ยงไปทางขวามือหน้าตู้โชว์ทองคำรูปพรรณ จากนั้นคนที่ 2 ที่เดินตามหลังมาได้ยิงปืน 1 นัด ทำให้คนในร้านหมอบหลบลงใต้เคาน์เตอร์ คนร้ายอีกคนอ้อมเข้าไปด้านในตู้โชว์แล้วกวาดเอาทองคำรูปพรรณวิ่งซ้อนรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ขับขี่ย้อนศรไปเข้าซอยหมู่บ้านต้นลุง
พล.ต.อ.สุชาติเปิดเผยหลังตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุว่า ตำรวจเก็บรายละเอียดคนร้ายได้มากพอสมควร โดยหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุมีหลายรายการทั้งในร้านและที่กระจก คาดว่าจะตามตัวคนร้ายได้ไม่ยาก จากการสอบถามคนขายทราบว่ามีสำเนียงเป็นคนพื้นที่ อาจเป็นคนละแวกเดียวกัน แต่อาจจะใช่หรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถเก็บหลักฐานคนร้ายได้กว่า 70% แล้ว ทำให้พอทราบตัวแล้วและทางรองผบช.ภ.5 และ ผบก.ภ.จว.เชียงรายเข้าไปกำกับดูแลเองแล้ว แต่จะได้ตัวคนชิงทรัพย์เลยหรือไม่ยังไม่มั่นใจ คงจะได้ส่วนหนึ่งแน่นอน ส่วนการใช้ปืนของคนร้ายนั้นไม่ใช่คนมีประสบการณ์ ดูลักษณะการใช้ปืนไม่คล่อง ยิงแล้วปืนยังขัดลำ ทำให้มีลูกกระสุนตกในที่เกิดเหตุ จากการตรวจหลักฐานทราบว่ามีการซื้อขายกระสุนใน จ.เชียงราย และเป็นของบริษัทรายหนึ่งโดยเป็นขนาด 9 ม.ม. ซึ่งพบในที่เกิดเหตุจากการยิง 1 นัด และมีปลอกตกอยู่ 1 ปลอก กำลังตามรอยอยู่
รางวัลนำจับ 2 คนร้าย
ขณะที่เย็นวันนั้นตำรวจติดตามตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งมาสอบสวน หลังมีเบาะแสว่านำสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ซึ่งร้านทองดังกล่าวตรวจสอบแล้วพบว่าสร้อยทองเส้นดังกล่าวมีตราสัญลักษณ์เหมือนกับร้านทองเยาวราช และผู้ต้องสงสัยดังกล่าวยังคล้ายกับ 1 ใน 2 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ แต่จากการสอบสวนพบว่าเป็นลูกค้าประจำของร้านทองที่เกิดเหตุและไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับการปล้นทองจึงปล่อยตัวไป
ตำรวจเชียงรายยังคงติดตามไล่ล่าอย่างไม่ลดละ รวมทั้งประกาศให้รางวัลนำจับจำนวน 60,000 บาท แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส จนสามารถจับกุมตัว 2 คนร้ายได้
หนีได้ก็หนีไป แต่สุดท้ายไม่รอดหรอก เหมือนกันทุกรายแหละ