เมื่อวันที่ 25 มกราคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วย เชียงราย แพร่ น่าน และพะเยา เพื่อติดตามผลการดำเนินการตามนโยบายกระทรวงแรงงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ไตรมาสที่ 1 ผลการเร่งรัดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว และส่งเสริมการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบ และการดำเนินการส่งเสริมการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานในเศรษฐกิจระดับชุมชน สินค้าอุตสาหกรรมในชุมชน วิสาหกิจชุมชน โดยมี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมจอมกิตติ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย
นายสุชาติกล่าวว่า ในวันนี้ได้มาประชุมติดตามผลการปฏิบัติงานตามนโยบายกระทรวงแรงงานที่ได้ให้ไว้ และรับทราบแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านแรงงานที่ จ.เชียงราย ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาแรงงานทุกช่วงวัยให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพ มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายและการประกันสังคม ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและการบริการ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะ จ.เชียงราย เป็นหัวหน้ากลุ่มพัฒนาจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วย เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน
“นอกจากนี้ จ.เชียงราย ยังเป็นจังหวัดสำคัญของภาคเหนือตอนบนที่มีพื้นที่ติดชายแดน มีภูมิอากาศเหมาะสมและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ สามารถเชื่อมโยงการค้าและการลงทุนกลุ่มประเทศภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และเชื่อมโยงการพัฒนากับกลุ่มจังหวัดดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนากำลังคนให้มีคุณภาพ พร้อมรองรับการค้าและการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ ด้านโลจิสติกส์ และด้านอื่นๆ ในระดับภูมิภาคและระดับโลก” นายสุชาติกล่าว และว่า การประชุมในครั้งนี้ เพื่อรับทราบแนวทางการขับเคลื่อนและความก้าวหน้าการปฏิบัติงานตามนโยบาย เพื่อพัฒนาประชาชนทุกภาคส่วนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี รับทราบปัญหา อุปสรรค พร้อมให้ข้อเสนอแนะ เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วย เชียงราย แพร่ น่าน และพะเยา ได้นำไปปรับปรุงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายให้มีประสิทธิภาพต่อไป