สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่าสนใจและเชื่อว่ามีโจรออนไลน์ลักษณะแบบนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้เสียหายรายนี้ได้เข้ามาปรึกษาคดี เนื่องจากได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย โดยในหมายเรียกดังกล่าวแจ้งให้ไปพบพนักงานสอบสวนในฐานะผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ทั้งที่ ผู้เสียหายรายนี้ไม่เคยไปจังหวัดเชียงราย เนื่องจากเป็นนักเรียนทุนในประเทศจีน อยู่ที่เมืองจีนมาหลายปีแล้ว
เมื่อสอบถามรายละเอียดเบื้องต้นที่เกิดขึ้นในคดีนี้จากพนักงานสอบสวน จึงทราบว่า มีคุณป้าท่านหนึ่งมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากเงินในบัญชีหายไป โดยไม่ทราบสาเหตุ พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกขอรายการเดินบัญชีของคุณป้ามาตรวจสอบ จึงพบว่า เงินในบัญชีธนาคารของคุณป้า จำนวน 50,000 บาท ได้โอนเข้าไปยังเลขที่บัญชีธนาคารของผู้เสียหาย เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว
ทีมทนายจึงให้ผู้เสียหายไปขอรายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลังในช่วงเวลาที่ได้รับโอนเงิน จำนวน 50,000 บาทดังกล่าว เพื่อตรวจสอบว่า เคยทำธุรกรรมทางการเงินกับใครบ้างหรือไม่ ในช่วงระยะเวลาก่อนและหลัง ได้รับเงิน จำนวนดังกล่าว แต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่มีคนโอนเงินมาให้ 50,000 บาทนั้น เกิดขึ้นมาประมาณสองปีแล้ว ผู้เสียหายจึงจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนโอนมาให้ และโอนมาให้เนื่องจากทำธุรกรรมอะไรกัน ประกอบกับได้เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือใหม่ จึงทำให้ข้อมูลหลายอย่างหายไป สุดท้ายผู้เสียหายรายนี้ต้องยอมจ่ายเงินให้กับคุณป้า เพื่อยุติเรื่องทั้งหมด เป็นเงินนับ 100,000 บาท
ต่อมาผู้เสียหายรายนี้ได้ตรวจสอบรายการเดินบัญชีธนาคารในประเทศจีนใหม่โดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง จึงพบว่า เคยได้รับเงินทุนจากประเทศจีนเป็นเงินสกุลหยวน และมีความประสงค์จะแลกเป็นเงินบาทไทย เพื่อโอนไปให้ครอบครัวที่เมืองไทย จึงหาข้อมูลออนไลน์ค้นหาผู้ให้บริการรับแลกเงิน และได้ติดต่อกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งอ้างว่ารับแลกเงินสกุลหยวน เมื่อผู้เสียหายได้โอนเงินสกุลหยวนไปให้กับผู้หญิงคนดังกล่าว ผู้หญิงคนดังกล่าวก็โอนเงินจำนวน 50,000 บาทเข้ามาในบัญชีธนาคารในเมืองไทยของผู้เสียหาย
สุดท้ายเรื่องโป๊ะแตก เนื่องจากผู้หญิงคนที่รับโอนเงินหยวนไปจากผู้เสียหาย มีนามสกุลเดียวกับคุณป้าที่ได้ไปแจ้งความไว้ ผู้เสียหายจึงไปสอบถามคุณป้าอีกครั้ง ว่าผู้หญิงคนที่ได้รับเงินหยวนไปนั้น เกี่ยวข้องอะไรกับคุณป้า ซึ่งคุณป้าแจ้งมาว่า เป็นลูกสาว เมื่อคุณป้าไปสอบถามกับลูกสาวแล้ว ก็ปรากฏว่า ลูกสาวได้ยอมรับว่า ใช้แอปพลิเคชันในมือถือของคุณป้าโอนเงิน จำนวน 50,000 บาท ไปที่บัญชีธนาคารของผู้เสียหายจริง
เมื่อคุณป้าทราบเรื่องจริงทั้งหมด ก็ได้ขอโทษกันแล้ว ยอมโอนเงิน 100,000 บาทคืนให้ผู้เสียหายทั้งหมด รวมถึงมีค่าเสียหายในส่วนอื่นๆ ให้กับผู้เสียหายด้วย และทั้งสองฝ่ายก็ไม่ติดใจเอาความซึ่งกันและกันอีกต่อไป
อุทาหรณ์จากเรื่องนี้ สอนให้เราต้องระมัดระวังตัวในการทำธุรกรรมทางด้านการเงินกับบุคคลที่เราไม่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีที่ ผู้รับโอนเงินจากเรา กับ ผู้ที่โอนเงินมาให้เรานั้น หากไม่ใช่บุคคลเดียวกันหรือมีชื่อนามสกุลแตกต่างกัน เราควรจะต้องสอบถามเหตุผล และควรจะเก็บหลักฐานไว้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตครับ
สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” [email protected] ได้เลยครับ
Facebook: ทนายเจมส์ LK
Instagram: james.lk