“วิสาร” ถล่มนายกฯ ไร้สภาวะผู้นำ ต้นเหตุเสียค่าโง่อัครา- เอื้อนายพลยึดครองที่ราชพัสดุ เตือน “2อดีตปลัดกลาโหม” ระวังเจอคุก
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีและรายบุคคล นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายพุ่งเป้าไปที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงความล้มเหลวในการบริหารราชการว่า นับตั้งแต่มีการควบคุมอำนาจ สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะผู้นำที่ของพล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่มีความความรอบคอบ มีการใช้คำสั่งมาตรา44 เพื่อระงับการดำเนินกิจการ
ซึ่งขณะนี้มีการฟ้องร้องกันถึงวันนี้รัฐบาลต้องเอาที่ดินไปบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ผู้ถือหุ้นเหมือนทองอัคราถึง 44 สัญญารวมพื้นที่กว่า4แสนไร่ซึ่งล้วนอยู่ในจ.เพชรบูรณ์ทั้งสิ้น และเตรียมที่จะให้อีก66แปลงรวมทั้งสิ้น6แสนไร่ โดยทั้งหมดนี้ใช้เวลาอนุมัติเพียง3เดือน เรื่องดังกล่าวพล.อ.ประยุทธ์เคยบอกว่าจะรับผิดชอบเอง ปรากฎว่าทั้งค่าอนุญาโตตุลาการ รวมค่าอื่นๆต้องใช้งบประมาณแผ่นดิน 600 กว่าล้านนี่หรือที่พล.อ.ประยุทธ์จะรับผิดชอบเอง
พล.อ.ประยุทธ์อนุมัติสัญญาทั้งๆที่รู้ว่าเราจะแพ้คิงส์เกตอย่างฟรีๆ44แปลง ประเมินได้เลยว่าจากนี้รัฐบาลจะต้องประเคนให้เขาอีกอีก66แปลงรวมทั้งสิ้น6แสนไร่ เบ็ดเสร็จผลที่เกิดจากความไม่ยั้งคิดในการใช้มาตรา44จะต้องเตรียมที่ดินให้คิงส์เกตถึง1ล้านไร่
“เรื่องดังกล่าวมีเรื่องผลประโยชน์ของพวกพ้องมากกว่าการแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน”
ทั้งนี้ยังพบว่า มีการหาผลประโยชน์ในที่ราชพัสดุโดยการถือครองของกองทัพบก โดยพบความไม่ชอบมาพากลที่โครงการบ้านธนารักษ์ จ.เชียงราย พื้นที่ 82ไร่ อยู่ในนสร.เลขที่ 2122/2509 ซึ่งมีการระบุว่าจะใช้เป็นบ้านสวัสดิการทหารโดยมีอายุสัญญาเช่า30ปี แต่ใน5ปีสามารถโอนสิทธิขายต่อให้เอกชนได้
สิ่งที่ตั้งข้อสังเกตคือที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณริมน้ำกก หลังศาลลากลาง แต่กลับคิดอัตราค่าเช่า1.5บาทต่อตารางวาต่อเดือน ในขณะที่ที่ดินบริเวณข้างเคียงกลับมาราคาสูงถึง8-10ล้านบาทต่อไร่ นอกจากนี้ยังพบว่าบ้านสวัสดิการดังกล่าวมีการเปลี่ยนมือไปยังบุคคลอื่น หรือนายทหารยศนายพลที่ไม่ใช่ทหารพื้นที่ทั้งที่นายนายทหารชั้นนายสิบ นายร้อย นายพันยังได้รับความเดือดร้อนต้องไม่กู้หนี้ยืมสิน
จึงเชื่อว่าบ้านสวัสดิการดังกล่าวถ้าไม่มีอภิสิทธิ์ อภินิหารโครงการดังกล่าวคงเกิดขึ้นไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบว่า บุคคลที่เป็นน้องของผู้ยิ่งใหญ่ในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)
“จริงอยู่โครงการนี้ไม่มีใบเสร็จ คงไม่มีบริษัทไหนยอมรับว่าผมได้จ่ายเงินให้นายพลคนนั้นคนนี้ 300ล้าน แต่นี่คือสิ่งบ่งชี้ว่าจริยธรรมท่านเป็นอย่างไร ”
พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า “3ป.” ไม่รับเงินชั่วๆ แต่ถ้าเป็นคนใกล้เคียงรับหรือไม่คนเหล่านี้เป็นเงินชั่วๆหรือไม่ เหตุใดจึงไม่นำที่ดินดังกล่าวไปจัดสรรเพื่อให้ทหารชั้นผู้น้อยได้ใช้ประโยชน์ ที่สำคัญคือหลังมีการดำเนินโครงการดังกล่าวมีโครงการบ้านจัดสรรเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากและเวลานี้ราคาที่ดินอยู่ที่1.8ล้านบาทต่อไร่ ราคาบ้านจัดสรรต่อหลังอยู่ที่ 4-5ล้านบาททำให้มีส่วนต่างตรงนี้อยู่กว่า 200ล้านบาทขอถามว่าส่วนต่างตรงนี้ไปอยู่ในบริษัทที่มีการจดทะเบียนในค่ายทหารหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีโครงการไชยนาราย ริเวอร์ไซด์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ราชพัสดุโดยมีการระบุว่าใช้เป็นที่พักฟื้นและพักผ่อนของกองทัพ และใช้เป็นที่ฟื้นฟูของทหารพิการเจ็บไข้ได้ป่วย มีการก่อสร้างโดยใช้งบมูลค่ากว่า 100 ล้าน ท้ายที่สุดกลับพบว่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามที่ระบุแต่กลับนำไปให้เอกชนเช่าถามว่า นายทหารชั้นผู้น้อยได้ประโยชน์อะไร
นายวิสาร ยังอภิปรายถึงการบริหารงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) โดยนับตั้งแต่มีการควบคุมอำนาจของคสช.มีความพยายามให้กอ.รมน.เป็นองค์กรที่ครอบจักรวาล จนเวลานี้กลายเป็นซูเปอร์องค์กร มีอำนาจแต่งตั้งข้าราชการเองได้ วันนี้กอ.รมน.มีการใช้อะไรที่ผิดๆ
โดยเฉพาะโครงการโซล่าเซลล์ของกอ.รอน.ที่อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ที่ใช้งบมากถึง 45ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าสูงเกินความจำเป็น แต่ ณ เวลานี้ประชาชนยังไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้เพราะต้องรอให้กรรมการตรวจสอบทั้งที่ไม่ใช่ความต้องการของประชาชน
อีกโครงการคือโครงการสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้าโซล่าเซลล์ 12แห่งซึ่งเป็นโครงการของกอ.รมนซึ่งไม่ได้เป็นความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และเวลานี้ไม่สามารถใช้การได้ 10จุดและอีก 2จุดหายไปซ้ำยังถูกตรวจสอบเรื่องความโปร่งใส อยู่ในขณะนี้
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของโครงการขุดลอกคลองขององค์การทหารผ่านศึก(อคศ.) ที่พบว่ามีการทุจริต มีการฮั้วแบ่งหัวคิว เรื่องต่างๆเหล่านี้ขอเตือนว่าจะมีพล.อ.ที่เป็นปลัดกระทรวงกลาโหมอย่างน้อย 2คนที่ติดคุกหลังจากนี้
จากพฤติกรรมที่ทำให้คนในชาติแตกแยก เศรษฐกิจย่ำแย่ ปล่อยปะละเลยให้มีการทุจริต ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ได้