แม่สายระทม! ฝุ่นพิษต่อเนื่องวันที่ 3 ค่า PM2.5 สูงสุดในรอบปี
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ชายแดนไทย-เมียนมา ทางด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย คุณภาพอากาศอยู่ในะดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว โดยปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 วัดได้ 103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วน PM10 วัดได้ 149 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือเป็นค่าที่สูงที่สุดในรอบปีนี้
สถานการณ์ดังกล่าวเกิดผลกระทบกับประชาชน นายไสว แก้วรินทร์ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หน้าด่านพรมแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก กล่าวว่า รู้สึกว่าแสบตา แสบจมูก หายใจไม่ค่อยสะดวก มาได้ 2-3 วันแล้ว ตื่นขึ้นมาจะรู้สึกได้อย่างชัดเจน วันต่อๆ ไปดูแล้วน่าจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเท่าที่คุยกันก็คาดว่าลมน่าจะมาจากประเทศเพื่อน
สำหรับสาเหตุที่ทำให้คุณภาพอากาศที่แม่สายย่ำแย่ เชื่อว่าน่าจะเกิดจากลมได้พัดพาเอาหมอกควันมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากพบจุดความร้อนในพื้นที่น้อยมาก ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบ Hotspot เพียง 9 จุดเท่านั้น น้อยที่สุดใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบกับสภาพพื้นที่เป็นแอ่งกระทะทำให้ฝุ่นละอองในอากาศสะสมจำนวนมากขึ้น
ล่าสุดทางกองบังคับการควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 จัดกำลังพล ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อ.แม่สาย, เทศบาลตำบลแม่สาย, เทศบาลตำบลแม่สายมิตรภาพ นำรถฉีดน้ำและรถดับเพลิงฉีดพ่นละอองน้ำขึ้นสู่อากาศ และฉีดล้างกำจัดฝุ่นละออง จำนวน 7 จุด ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อลดค่าปริมาณฝุ่น PM2.5 และ PM10 ซึ่งปัจจุบันมีการตรวจพบค่าฝุ่นละอองในอากาศอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน