สยามรัฐออนไลน์
12 มีนาคม 2564 00:10 น.
ภูมิภาค
ฝุ่น
PM2.5
“ศกพ.”ตรวจพบ 18 จว.ผจญฝุ่นพิษ! ภาคเหนือหนักสุด “แม่ฮ่องสอน”สูงสุด 242 มคก./ลบม. “เชียงราย”ผู้ป่วยทางเดินหายใจสะสมเพิ่มเกือบ 3 หมื่นคนแล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11มี.ค.64 ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ(ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพฯ จ.เชียงราย จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.สระบุรี จ.หนองคาย จ.อุบลราชธานี จ.นครราชสีมา และ จ.บุรีรัมย์
ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ พบค่าฝุ่น ระหว่าง 32–248 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม) พบเป็นพื้นที่สีแดง(กระทบต่อสุขภาพ) 8 พื้นที่ ได้แก่ ค่าฝุ่นสูงสุดที่ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน วัดค่าฝุ่นได้ 248 มคก.ลบ.ม., ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย, ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, รพ.เทพรัตนฯ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน และ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก
ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1-9 มี.ค.64 มีผู้ป่วยที่รักษาตัวด้วยอาการเกี่ยวเนื่องกับมลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นในเชียงราย รวม 29,275 ราย แยกเป็นกลุ่มโรคทางเดินหายใจ 12,455 ราย ประกอบด้วยโรคปอดอุดตันเรื้องรัง 6,002 ราย หอบหืด 163 ราย ปอดอักเสบ 1,645 ราย ไข้หวัดใหญ่ 173 ราย คอหอยอักเสบเฉียบพลัน 2,460 ราย จมูกอักเสบเรื้อรัง 214 ราย และหลอดลมอักเสบ จำนวน 1,762 ราย
ขณะที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ตรวจวัดได้ 22 – 53 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐาน 2 พื้นที่ ได้แก่ บริเวณริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง จ.กรุงเทพฯ และริมถนนนวมินทร์ แยกบางกะปิ เขตบางกะปิ จ.กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์