เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 64 พระรัตนมุนี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย นำคณะสงฆ์ร่วมกับสมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาของจังหวัดเชียงราย นำโดย นายปรีชา พัวนุกุลนนท์ ได้จัดกิจกรรมประกาศปฏิญญาให้พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาหลักประจำจังหวัดเชียงราย” ณ บริเวณพุทธมณฑลสมโภช 750 ปี เมืองเชียงราย ต.บัวสลี อ.แม่ลาว จ.เชียงราย โดยมีพุทธศาสนิกชนจากกลุ่มพุทธสมาคมแห่งจังหวัดเชียงราย สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย สมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเซียงราย พุทธสมาคมอำเภอ สภาวัฒนธรรมอำเภอทุกอำเภอ และองค์กรเครือข่าย รวมกว่า 7,000 คน เข้าร่วมกิจกรรมด้วยความสำรวมอย่างพร้อมเพรียง
สำหรับพิธีพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันประกาศปฏิญญาให้พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาหลักประจำจังหวัดเชียงราย ประกอบด้วยกิจกรรมแสดงตนเป็นพุทธมามกะ กิจกรรมสวดมนต์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร กิจกรรมการเสวนาทางวิชาการเรื่อง “พระพุทธศาสนาในประเทศไทยยุคโลกาภิวัตน์” โดยพระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) และศาสตราจารย์ ดร.ดุษฎีวัฒน์ แก้วอินทร์ รวมทั้ง กิจกรรมการทอดผ้าป้าระดมทุนเพื่อดำเนินงานส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาในจังหวัดเชียงราย และกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนาอย่างต่อเนื่องงดงามมากมาย
โดยการนี้ นายปรีชา พัวนุกุลนนท์ ได้กล่าวว่า ที่มาของการจัดงานครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากปัจจุบัน พระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติไทย และเป็นศาสนาซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนไทยและคนล้านนา รวมทั้ง คนในจังหวัดเชียงรายกำลังได้รับความกระทบกระเทือนจากภัยคุกคามทั้งหลาย ทั้งจากภัยภายในและภัยภายนอกพื้นที่
ด้วยเหตุนี้ จึงจัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกถึงบทบาทหน้าที่ที่สำคัญของพุทธบริษัทพลเมืองไทย พุทธศาสนิกชนในจังหวัดเชียงราย อันประกอบด้วย บุคคล คณะบุคคล องค์กรพุทธ และองค์กรเครือข่าย ได้แก่ พุทธสมาคมแห่งจังหวัดเชียงราย สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย สมาพันธ์ชาวพุทธจังหวัดเชียงราย พุทธสมาคมอำเภอทุกอำเภอ สภาวัฒนธรรมอำเภอทุกอำเภอ และองค์กรพุทธอื่น ๆ ตลอดถึงองค์กรทางสังคมที่มีแนวคิดในการส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนา จึงได้รวมตัวกันก่อตั้ง “สมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย” ขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อจะมีการผลักดันให้พุทธศาสนิกชนในจังหวัดเชียงราย ยึดหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังมีแก่นของศาสนาคือ “ทาน ศีล ภาวนา” อีกทั้ง จะนำวิถีแห่งชาวล้านนาแต่ดั้งเดิมที่หายไปกลับมาอนุรักษ์ให้เป็นอัตลักษณ์อันโดดเด่นเช้นเดิม อันประกอบด้วย ความสะอาดเรียบร้อย ความละเอียดละออ ความอ่อนช้อย ความรักในหมู่เหล่า มีความซื่อสัตย์ และความเคารพต่อผู้หลักผู้ใหญ่ผู้อาวุโส ทั้งนี้ จะนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามหลัก ปรัชญาแห่งองค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 นำมาปลูกฝังให้ประชาชนชาวพุทธดำเนินชีวิตอยู่อย่างมีความผาสุกสวัสดีต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น
- Line