กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงประชาชนที่ทำงานกลางแจ้งเสี่ยง ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สูงเกินมาตรฐานในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านต้องสวมหน้ากากป้องกันและเช็คค่าฝุ่นทุกครั้ง พร้อมแนะอากาศร้อนควรดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ และดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 – 28 มีนาคม 2564 พบว่า มีอุณหภูมิสูงสุด 41.1 องศาเซลเซียส ที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีรายงานคาดการณ์ว่าจะมีอุณหภูมิสูงสุด 42 องศาเซลเซียส ในอีก 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 ที่จังหวัดลพบุรี นอกจากนี้ สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 วันที่ 29 มีนาคม 2564 พบเกินค่ามาตรฐานในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย น่าน แม่ฮ่องสอน พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร และอุบลราชธานี โดยมีค่าสูงสุดที่ 259 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และพบมีค่า PM 2.5 ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) ใน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงรายและอุบลราชธานี
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในช่วงสัปดาห์นี้ PM 2.5 ในทุกภาคของประเทศ มีแนวโน้มคุณภาพอากาศในระดับดีมาก (สีฟ้า) ถึงปานกลาง (สีเหลือง) แต่อย่างไรก็ตาม บางพื้นที่ในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ อาจเกินค่ามาตรฐาน เนื่องจาก ยังคงพบจุดความร้อนจำนวนมากในประเทศเพื่อนบ้านและในประเทศ ส่งผลให้ PM 2.5 อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) ได้
“ดังนั้น ในสถานการณ์ที่ PM 2.5 ยังมีค่าเกินมาตรฐาน ประกอบกับสภาพอากาศร้อนจัด ประชาชนจึงต้องหมั่นดูแลป้องกันตนเองอยู่เสมอ โดยเมื่อสถานการณ์ฝุ่นมีค่าสูงเกินมาตรฐาน ควรตรวจเช็คค่าฝุ่น และติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เช่น Air4Thai หรือ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM 2.5” รวมทั้งลด เลี่ยง งดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง แต่หากจำเป็นต้องออกจากบ้านให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากาก N 95 โดยเลือกหน้ากากให้เหมาะสมกับลักษณะงาน หรือกิจกรรมของผู้สวมใส่ มีขนาดที่เหมาะสมกับใบหน้า และหน้ากากต้องได้มาตรฐาน สะอาด ไม่มีกลิ่นผิดปกติหรือฉีกขาด ต้องครอบจมูก และปาก นอกจากนี้ ควรลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นทั้งภายในและภายนอกบ้าน เช่น การเผาในที่โล่งแจ้ง และหมั่นทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด เพื่อเป็นการลดฝุ่นในบ้าน เน้นย้ำให้ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ และดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก คลื่นไส้ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทันที” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว