ตำรวจสืบสวนตามจับกุม 1 ใน 2 คนร้าย ก่อเหตุชิงทรัพย์ทองรูปพรรณ จากร้านทองกลางเมืองเชียงราย รับสารภาพเป็นคนขี่รถพากันหนี ขณะที่พบประวัติโชกโชน ส่วนอีกคนหนีไปประเทศเมียนมา
คลิปภาพที่ชาวบ้านตรงข้ามร้านทองทวีสิน สาขาตลาดป่าก่อ กลางเมืองเชียงราย ถ่ายภาพเหตุการณ์คนร้าย 2 คน ก่อเหตุชิงทรัพย์ทองรูปพรรณ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา
โดยระหว่างก่อเหตุ คนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงข่มขู่พนักงานด้วย พร้อมชิงทองรูปพรรณทั้งสร้อยคอและสร้อยข้อมือน้ำหนักรวม 114 บาท มูลค่ารวม 3 ล้านบาท ก่อนซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทันที
หลังเกิดเหตุ ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนพบพฤติกรรมคนร้าย ก่อเหตุคล้ายกับเหตุชิงทรัพย์ร้านทองดังกล่าว ที่สาขาบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้ พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่สั่งการคลี่คลายคดี
ล่าสุด ตำรวจชุดสืบสวน จับกุม นายพิเชษฐ์ ซาวคำเขต อายุ 24 ปี ชาวอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ขณะขับรถอยู่บนถนนสายเชียงราย-เทิง ตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เมื่อกลางดึกวันที่ 30 มิถุนายน ก่อนควบคุมตัวไปทำสอบสวน จนรับสารภาพว่า เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์หลังก่อเหตุ และยังเป็นคนที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองทวีสิน สาขาตลาดบ้านดู่ ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อนขยายผลไปยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นรถของ นายทีปกร ทำนา ทะเบียรระบุอยู่ที่ตำบลวังลึก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งตำรวจ เชื่อว่านายทีปกร เป็นคนร้ายอีกคนที่ร่วมก่อเหตุ
ทั้งนี้หลังก่อเหตุ นายพิเชษฐ์ และเพื่อน หลบหนีไปจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พร้อมทองคำชิงไป ผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยข้ามชายแดนที่แม่น้ำรวก ตำบลเกาะช้าง ไปที่บ้านป่ากุ๊ก เขตเมืองพง จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ก่อนจะย้อนกลับมาไทย แล้วไปยืมรถกระบะจากญาติ เพื่อนำแม่ไปหาหมอ แต่ถูกจับกุมได้ ขณะรถขับอยู่บนถนนสายเชียงราย-เทิง
สำหรับประวัติ นายพิเชษฐ์ เคยก่อเหตุร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2558 ก่อนถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ 10 วัน และพ้นโทษเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 จากนั้นก็มาก่อเหตุซ้ำเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา