มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ส.ค.64 ที่ผ่านมา สร้างความฮือฮาไม่น้อย เมื่อที่ประชุมมีมติเห็นชอบคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายของ “กระทรวงมหาดไทย” ภายหลังจากที่วาระดังกล่าวถูกเลื่อนมาแล้วถึงสองรอบ !
โดยในรอบนี้ที่ประชุมครม.เห็นชอบตามที่ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง กระทรวงมหาดไทยด้วยกันทั้งสิ้น 28 ราย
ทั้งในส่วนของการแต่งตั้ง “ปลัดมหาดไทยคนใหม่” มาลงตัวที่ “ปลัดเก่ง” สุทธิพงษ์ จุลเจริญ จากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ก้าวขึ้นมาเป็นปลัดกระทรวงที่คุมงานทั้งประเทศ รับไม้ต่อจาก “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีกำหนดเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้
และที่น่าสนใจไม่แพ้ การเปิดตัวปลัดมหาดไทยคนใหม่แล้ว ยังพบว่าการแต่งตั้งรอบนี้ “มท.1” ยังให้ย้าย “ผู้ว่าฯหมูป่า” หรือ “ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” จากผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เข้ามานั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี แทน “ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม” ซึ่งถูกขยับจากผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย
ก่อนหน้าที่คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในเช้าวันอังคารที่ 3ส.ค. ปรากฏว่าในช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 2 ส.ค.มีกระแสข่าวออกมาว่าให้จับตาการจัดทัพของกระทรวงมหาดไทยรอบนี้ โดยเฉพาะการขยับ “ผู้ว่าฯหมูป่า” ณรงค์ศักดิ์ ผู้ว่าฯน้ำดี มีความสามารถ ฝากผลงานเอาไว้แทบทุกจังหวัดที่ไปนั่งเป็นพ่อเมือง มีลุ้นว่าจะได้ขยับ
บ้างก็ว่าอาจจะได้ขึ้นถึง “รองปลัดมหาดไทย” แต่บางกระแส ชี้เป้าว่า ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ อาจจะได้ไป “แสดงฝีมือ” ปราบไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนักในจังหวัดใด จังหวัดหนึ่งที่พื้นที่สีแดงเข้ม
แต่แล้ว มาลงตัวที่คำสั่งแต่งตั้งให้ ผู้ว่าฯหมูป่า ไปนั่งทำหน้าที่ “พ่อเมืองปทุมธานี” โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป
สำหรับ ณรงค์ศักดิ์ หรือที่หลายคนเรียกขานว่า “ผู้ว่าฯหมูป่า” นั้นมีที่มาจากเมื่อครั้งที่ เจ้าตัวดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯเชียงราย พิสูจน์ผลงาน พิสูจน์ความเป็น “ผู้นำ” จากเหตุการณ์ช่วยชีวิต “13หมูป่า” ในปฏิบัติการช่วยชีวิตนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ช่วยโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 23 มิ.ย. 2561 – 10 ก.ค. 2561
ใช้เวลาถึง 18 วัน ทำหน้าที่ในฐานะผู้นำ เป็น “ผู้บัญชาการ” ทำงานร่วมกับทีมช่วยเหลือทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติที่อาสามาร่วมในปฏิบัติช่วยชีวิต “13หมูป่า” จนประสบความสำเร็จ ซึ่งถือว่าการทำหน้าที่เป็น “ผู้นำในภาวะวิกฤติ” นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ณรงค์ศักดิ์ ได้แสดงฝีมือให้ประจักษ์มาแล้ว
ต่อมาณรงค์ศักดิ์ ได้รับคำสั่งให้ย้ายจากเชียงราย ไปนั่งผู้ว่าฯพะเยา ท่ามกลางความเสียใจ เสียดายจากชาวเชียงราย พร้อมกันนี้มีข่าวว่า เป็นเพราะผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ มีสไตล์การทำงานที่ตรงไปตรงมา จึงยากที่จะประสานกับฝ่ายการเมือง โดยไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯพะเยา 1 ปีเศษ ต่อมาณรงค์ศักดิ์ ย้ายไปเป็นผู้ว่าฯลำปาง เมื่อวันที่ 1ต.ค.2562 แน่นอนว่า การบริหารจัดการกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในจังหวัดลำปาง ได้รับเสียงชื่นชมไม่น้อย ทั้งแนวคิด “รับคนลำปางกลับบ้าน” ,การบริหารจัดการฉีดวัคซีนให้พี่น้องชาวลำปาง ทั้ง AstraZeneca และ Sinovac ทำให้ลำปางมียอดจองจองฉีดวัคซีนหมอพร้อมครบ 100% จน “นายกรัฐมนตรี” ต้องออกปากชมการบริหารจัดการของผู้ว่าฯลำปาง มาแล้ว
ณรงค์ศักดิ์ เกิดเมื่อ 1 มิ.ย. 2508 ที่อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา จบปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , นิติศาสตร์บัณฑิต (2536) และประกาศนียบัตรกฎหมายการที่ดินและทรัพย์สิน (2535) จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, เทคโนโลยีบัณฑิต (เทคโนโลยีสารสนเทศธุรกิจ) ม.สุโขทัยธรรมาธิราช (2545) และ รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (2556) และยังจบการศึกษาในระดับปริญญาโท Master of Science (Geodetic Science and Surveying), มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต สหรัฐฯ
ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ เคยตกเป็นข่าวเกรียวกราวมาก่อนหน้านี้ว่าถูกพรรคการเมืองใหญ่ทาบทามให้ลงสมัครชิงเก้าอี้ “ผู้ว่าฯกทม.” แต่ในที่สุดเจ้าตัวออกมาปฏิเสธว่า “ผมไม่ยุ่งการเมือง”