เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 64 นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมนายทวีชัย โค้วตระกูล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดเชียงราย และทีมงาน ลงพื้นที่บ้านหลวงใหม่พัฒนา ม.8 ต.ครึ่ง อ.เชียงของ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน มีหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวน 7 หมู่บ้าน ได้แก่ ม.1,2,3,4,8,10,11 ของ ต.ครึ่ง รวม 144 ครัวเรือน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 431 คน
การลงพื้นที่รับฟังปัญหาในครั้งนี้ มีนายดำรงศักดิ์ ไชยสาร นายกเทศมนตรีตำบลครึ่ง นายอินสอน ติ๊บโคตร ผญบ.บ้านหลวง ร่วมรายงานสถานการณ์ และประสานขอรับการสนับสนุนเครื่องจักรและบุคลากร เพื่อ มาช่วยเคลียร์พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก และเร่งระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำเพื่อเตรียมรับมวลน้ำรอบใหม่ รวมถึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทางนายก อบจ.เชียงราย ก็ได้ประสานฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการ และให้ทาง ทต.ครึ่ง เร่งจัดทำเอกสารขอรับความช่วยเหลือเข้าไปที่ อบจ.
หลังจากรับฟังรายงานสถานการณ์แล้ว ทางคณะทำงานได้ไปสำรวจอ่างเก็บน้ำบ้านหลวงใหม่พัฒนา ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำที่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำจำนวนมากไหลทะลักล้นอ่าง และก่อให้เกิดปัญหาน้ำหลากขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งจากการสำรวจพบว่าอ่างก็บน้ำดังกล่าวสร้างโดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เมื่อปี 2561 และโอนมอบให้ท้องถิ่นดูแลต่อ สามารถรองรับความจุน้ำได้ประมาณ 130,000 ลูกบาศก์เมตร เป็นที่น่าสังเกตุว่าบริเวณท้ายอ่างดังกล่าวมีตะกอนทับถม ทำให้มีสภาพตื้นเขิน ประกอบกับมีวัชพืชขวางทางระบายน้ำ จึงทำให้เกิดปัญหาในครั้งนี้ขึ้น
นายอินสอน ติ๊บโคตร ผญบ.บ้านหลวง เผยว่า เหตุน้ำป่าไหลหลากครั้งนี้เกิดจากปัญหาการระบายน้ำ ทำให้น้ำล้นข้ามสันอ่างเก็บน้ำ จึงทำให้สันอ่างได้รับความเสียหาย และน้ำป่าที่ไหหลากลงไปสร้างความเสียหายให้บ้านเรือนชาวบ้านประมาณร้อยกว่าครอบครัว
นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย กล่าวว่า หลังจากทาง อบจ.เชียงราย ได้รับแจ้งความเสียหายจากนายก ทต.ครึ่ง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ก็ได้ส่งเครื่องจักร ฝ่ายกองช่าง และเจ้าหน้าที่จากฝ่ายงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของ อบจ.เชียงราย เข้ามาสำรวจเพื่อดูว่าเราจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนนี้ได้อย่างไรบ้าง เบื้องต้นก็ได้นำเครื่องจักรและเครื่องสูบน้ำเข้ามา และในวันนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ของทางชลประทานเข้ามาดูพื้นที่ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาด้วยกัน และอยากฝากไปถึงพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่สูง หรือพื้นที่ราบเชิงเขา ให้ช่วยกันเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำป่าด้วย และหลังจากนี้ทาง อบจ.เชียงราย ก็คงจะไปหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นทางจังหวัด สำนักงานชลประทาน และ อปท.ต่างๆ เพื่อจะรับมือกับสถานการณ์ภัยสาธารณะที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ด้านนายทวีชัย โค้วตระกูล ผอ.โครงการชลประทาน จ.เชียงราย กล่าวว่า หลังจากที่มีฝนตกมาในช่วงวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมากถึง 150 มล. ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านตัวอ่างมีจำนวนสูงมากเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี ทำให้อ่างซึ่งจุน้ำได้ประมาณหนึ่งแสนกว่าคิว ไม่สามารถที่จะรองรับน้ำได้อย่างทันท่วงที น้ำส่วนหนึ่งที่ไหลผ่านสปิลเวย์ก็มีปริมาณมาก และอีกส่วนหนึ่งก็ไหลล้นทำนบดิน ทำให้มวลดินด้านท้ายของตัวอ่างทรุดตัวลง แต่ในเบื้องต้นได้สำรวจแล้วพบว่าตัวอ่างยังมั่นคงแข็งแรง ยังสามารถรองรับมวลน้ำที่จะมาในช่วงนี้ได้อยู่ แต่อย่างไรก็ตามต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมกับประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวเพื่อจะระบายน้ำมวลใหญ่ที่จะเข้ามาอีก ส่วนการป้องกันก็ได้ประสานงานกับนายก ทต.ครึ่ง และนายก อบจ. ว่าเราจะหาทางปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อเพิ่มความจุหรือเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงให้อ่างเก็บน้ำ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่