บีจีปทุมฯ เป็นแชมป์ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2020 ไปแล้วหลังจบเกมนัดที่ 24 ของพวกเขา เป็นการได้แชมป์เร็วสุดขณะที่ยังเหลือเกมอีก 6 นัด กับการได้แชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกของ”ทัพกระต่ายแก้ว”
ที่เหลือจากนี้ไปเหลือให้ลุ้นแค่อันดับ 2-3 ที่มีโควตา เป็น 2 จาก 4 สโมสรของไทยไปลุยฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเซีย ฤดูกาล 2022 หรือปี พ.ศ. 2565 ในรอบเพลย์ออฟ นั่นเอง
โควตา ไปเอซีแอล 2022 นั้น แชมป์ไทยลีก 2021 จะได้เล่นรอบแบ่งกลุ่ม โดยอัตโนมัติ นั่นก็คือ บีจีปทุมฯ จะได้เล่น 2 ฤดูกาล ติดต่อกัน คือ เอซีแอล 2021 ที่ได้เล่นฐานะแชมป์เลกแรกของไทยลีก ฤดูกาล 2020 และ เอซีแอล 2022 ที่ไปในฐานะแชมป์ของฤดูกาลไทยลีก 1 , 2020 นั่นเอง
ส่วนอีกทีมที่จะได้เล่น รอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ ก็คือ แชมป์ ช้าง เอฟเอคัพ ที่ รอเตะรอบ 8 ทีมสุดท้ายวันเสาร์ที่ 3 เม.ย. 2564 นี้
ถึงบอกว่า อันดับ 2-3 ของไทยลีก 2020 ที่อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายแล้วถือว่าสำคัญ เพราะมีตั๋วไป เอซีแอล รอบเพลย์ออฟ นั่นเอง
ทีมที่จะจบอันดับ 4 เองก็สำคัญไม่น้อยเพราะไม่แน่อาจได้ลุ้น ไปบอลถ้วยเอเซียได้ หากว่า แชมป์ ช้าง เอฟเอคัพ 2020 เป็นทีมเดียวกับ รองแชมป์ไทยลีก 2020 ซึ่งมีความเป็นไปได้ กรณี บุรีรัมย์ฯ ได้ที่ 2 ไทยลีก และแชมป์ เอฟเอคัพ ทีมอันดับ 4 ไทยลีก 2020 จะได้เล่น เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก ฤดูกาล 2022 ไปด้วยอีกทีมทันที
โค้งสุดท้ายของไทยลีก 1 ฤดูกาล 2020 โอกาสแต่ละทีมเป็นอย่างไรไปดูกัน
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ผลงานล่าสุด อันดับ 2 แข่ง 25 นัด ชนะ 15 เสมอ 3 แพ้ 7 ได้ 50 เสีย 25 แต้ม 48
โปรแกรมที่เหลือของบุรีรัมย์ฯ
นัดที่ วันที่ คู่แข่งขัน ผลที่คาด
26 10 มี.ค. 64 สุโขทัย ฯ ( ห ) บุรีรัมย์ฯ ชนะ
27 14 มี.ค. 64 สมุทรปราการฯ (ย ) บุรีรัมย์ฯ เสมอ
28 18 มี.ค. 64 ทรูแบงค็อกฯ (ห ) บุรีรัมย์ฯ ชนะ
29 21 มี.ค. 64 พีที ประจวบฯ (ห ) บุรีรัมย์ฯ ชนะ
30 28 มี.ค. 64 โปลิศเทโรฯ ( ห ) บุรีรัมย์ฯ ชนะ
บุรีรัมย์ฯ อยู่อันดับ 2 ขณะนี้โดยมีแต้มเท่ากับ การท่าเรือฯ อันดับ 3 แต่ผลต่างประตูได้เสีย บวกมากกว่า การท่าเรือฯ อยู่ 5 ประตู กับอีก 5 เกมที่เหลือ “ปราสาทสายฟ้า” มีเกมในบ้านตัวเองถึง 4 จาก 5 นัด พวกเขาน่าจะเช็คบิลคู่แข่งได้หมด ส่วนเกมไปเยือน สมุทรปราการฯที่ทำผลงานได้ดี เช่นกัน และมีลุ้นอันดับ 4 นั้น อาจจะไปแค่ผลเสมอ เบ็ดเสร็จ บุรีรัมย์ฯที่มีขณะนี้ 48 แต้มจะได้เพิ่มอีก 13 แต้ม รวมเป็น 61 แต้มจบด้วยอันดับ 2 การันตีได้ไป เอซีแอล แน่นอน แม้ว่าจะไม่ได้แชมป์ ช้าง เอฟเอคัพ ก็ตาม
การท่าเรือ เอฟซี
ผลงานล่าสุด อันดับ 3 แข่ง 25 นัด ชนะ 15 เสมอ 3 แพ้ 7 ได้ 52 เสีย 32 แต้ม 48
โปรแกรมที่เหลือของ การท่าเรือฯ
นัดที่ วันที่ คู่แข่งขัน ผลที่คาด
26 10 มี.ค. 64 สุพรรณบุรีฯ (ย ) การท่าเรือฯ ชนะ
27 14 มี.ค. 64 ชลบุรีฯ (ห ) การท่าเรือฯ ชนะ
28 17 มี.ค. 64 ราชบุรีฯ (ย ) การท่าเรือฯ ชนะ
29 20 มี.ค. 64 สิงห์เชียงรายฯ ( ห ) การท่าเรือฯ เสมอ
30 28 มี.ค. 64 นครราชสีมาฯ (ย ) การท่าเรือฯ ชนะ
เส้นทางที่เหลือ การท่าเรือฯ อันดับ 2 ขณะนี้มีเกมในบ้านแค่ 2 นัด ต้องไปเยือน 3 นัด และต้องเจอกับทีมที่อันดับยังไม่ปลอดภัย ถึง 3 ทีมคือ สุพรรณบุรีฯ , ชลบุรีฯ และ นครราชสีมาฯ แต่ด้วยศักยภาพแล้ว ท่าเรือฯ น่าจะผ่าน 3 ทีมดังกล่าวได้ จะหนักก็คือ ไปเยือน ราชบุรีฯ กับ เจอ “กว่างโซ่ง” อย่างไรก็ดี ท่าเรือฯ น่าจะชนะได้หมด เว้น เกมเดียวกับ สิงห์เชียงรายฯที่ อาจจะได้แค่เสมอ ต่อให้แต้มเท่ากับ บุรีรัมย์ฯ เฮดทูเฮด ก็เป็นรอง บุรีรัมย์ฯ เลกแรก เสมอ 1-1(ย ) ,เลกสอง ท่าเรือฯ แพ้คาบ้าน ให้ บุรีรัมย์ฯ 1-2
ของเดิมมี 48 แต้มได้เพิ่มอีก 13 แต้มเป็น 61 แต้ม ได้อันดับ 3 เพราะเฮดทูเฮด เป็นรอง บุรีรัมย์ฯ แต่ก็ได้ตั๋วไปเล่น เอซีแอล 2022 อีกทีมในรอบเพลย์ออฟ
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
ผลงานล่าสุด อันดับ 4 แข่ง 25 นัด ชนะ 12 เสมอ 5 แพ้ 8 ได้ 46 เสีย 34 แต้ม 41
โปรแกรมที่เหลือของ เอสซีจี เมืองทองฯ
นัดที่ วันที่ คู่แข่งขัน ผลที่คาด
26 9 มี.ค. 64 นครราชสีมาฯ (ย ) เอสซีจีฯ ชนะ
27 13 มี.ค. 64 สิงห์เชียงรายฯ ( ห ) เอสซีจีฯ ชนะ
28 16 มี.ค. 64 พีที ประจวบฯ(ย ) เอสซีจีฯ ชนะ
29 20 มี.ค. 64 สุพรรณบุรีฯ ( ย ) เอสซีจีฯ ชนะ
30 28 มี.ค. 64 บีจีปทุมฯ ( ห ) เอสซีจีฯ เสมอ
“กิเลนผยอง” ยังได้ลุ้น 2 ต่อหากจะได้ไป เอซีแอล อันดับแรก คือ ได้แชมป์ เอฟเอคัพ ที่รอบ 8 ทีมเจอกระดูกชิ้นโต อย่าง บุรีรัมย์ฯ กับการรักษาอันดับ 4 ขณะนี้เอาไว้ให้ได้ แล้ว ลุ้นให้ บุรีรัมย์ฯ ได้แชมป์ เอฟเอคัพ กรณีที่ รอบ 8 ทีม เอสซีจีฯ บุกไปแพ้ บุรีรัมย์ฯ ในถ้วยน็อคเอาต์ แต่จะได้ลุ้น อันดับ 2-3 คงจะยาก เพราะตามหลัง บุรีรัมย์ฯ และ การท่าเรือฯ ถึง 7 แต้มในขณะนี้
5 เกมที่เหลือ “กิเลนผยอง” มีเกมในบ้านแค่ 2 นัดต้องไปเยือน 3 กับ นครราชสีมาฯ , สิงห์เชียงรายฯ ,พีที ประจวบฯ , สุพรรณบุรีฯ น่าจะชนะได้ แต่เกมสุดท้ายในบ้านเจอกับ บีจีปทุมฯ อาจจะได้แค่เสมอเท่านั้น ขณะนี้มี 41 แต้ม ได้เพิ่มอีก 13 แต้ม เป็น 54 แต้ม จบด้วยอันดับ 4 ไป
ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด
ผลงานล่าสุด อันดับ 7 แข่ง 25 นัด ชนะ 11 เสมอ 6 แพ้ 8 ได้ 45 เสีย 36 แต้ม 39
โปรแกรมที่เหลือของ ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด
นัดที่ วันที่ คู่แข่งขัน ผลที่คาด
26 10 มี.ค. 64 ตราดฯ ( ห ) แบงค็อกฯ ชนะ
27 13 มี.ค. 64 โปลิศเทโรฯ (ย ) แบงค็อกฯ ชนะ
28 18 มี.ค. 64 บุรีรัมย์ฯ (ย ) แบงค็อกฯ แพ้
29 21 มี.ค. 64 ระยองฯ ( ห ) แบงค็อกฯ ชนะ
30 28 มี.ค. 64 พีที ประจวบฯ (ย ) แบงค็อกฯ ชนะ
“แข้งเทพ” โปรแกรมที่เหลือมีหนักๆก็แค่ต้องไปเยือน บุรีรัมย์ฯ ที่คงไม่น่ารอดกลับมา ส่วนการเจอกับ ตราดฯ ,ระยองฯ , เต็งตกชั้นนั้นน่าจะชนะได้ ส่วน กับ โปลิศเทโรฯ กับ พีที ประจวบฯ นั้นแม้จะไปเยือนแต่ก็น่าจะชนะได้
ของเดิมมี 39 แต้ม ได้เพิ่มอีก 12 แต้ม เป็น 51 แต้ม จบอันดับ 5
สมุทรปราการ ซิตี้
ผลงานล่าสุด อันดับ 5 แข่ง 25 นัด ชนะ 12 เสมอ 5 แพ้ 8 ได้ 50 เสีย 43 แต้ม 41
โปรแกรมที่เหลือของ สมุทรปราการ ซิตี้
นัดที่ วันที่ คู่แข่งขัน ผลที่คาด
26 11 มี.ค. 64 ราชบุรีฯ ( ห ) สมุทรปราการฯ ชนะ
27 14 มี.ค. 64 บุรีรัมย์ฯ (ห ) สมุทรปราการฯ เสมอ
28 17 มี.ค. 64 ชลบุรีฯ (ย ) สมุทรปราการฯ เสมอ
29 21 มี.ค. 64 ตราดฯ (ห ) สมุทรปราการฯ ชนะ
30 28 มี.ค. 64 สิงห์เชียงรายฯ (ย ) สมุทรปราการฯ แพ้
“เขี้ยวสมุทร” อยู่อันดับ 5 ขณะนี้โดยมี 41 แต้มเท่ากับ อันดับ 4 อย่าง เอสซีจี เมืองทองฯ แม้ผลงานจะดีแบบน่าทึ่งแต่กับ 5 นัดท้ายถือว่า 4 จาก 5 เกมนั้นหนักเอาเรื่อง ทั้ง เจอ ราชบุรีฯ ที่ก็น่าจะชนะ เจอ บุรีรัมย์ฯ เต็มที่น่าจะได้แค่ เสมอ แต่มีโอกาสแพ้คาบ้านสูง ไปเยือน ชลบุรีฯ ที่ยังต้องหนีตาย ก็ไม่ง่าย คงได้แค่เสมอ ส่วนไป เยือน สิงห์เชียงรายฯ น่าจะแพ้กลับมา
แต้มเดิมมีอยู่ 41 แต้ม สมุทรปราการฯ จะได้อีก 8 แต้มเป็น 49 แต้ม จบได้อันดับ 6
สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด
อันดับล่าสุด 6 แข่ง 24 นัด ชนะ 11 เสมอ 6 แพ้ 7 ได้ 36 เสีย 26 แต้ม 39
โปรแกรมที่เหลือของ สิงห์เชียงรายฯ
นัดที่ วันที่ คู่แข่งขัน ผลที่คาด
25 10 มี.ค. 64 โปลิศเทโรฯ (ห ) สิงห์เชียงรายฯ ชนะ
26 13 มี.ค. 64 เอสซีจีฯ (ย ) สิงห์เชียงรายฯ แพ้
27 16 มี.ค. 64 สุโขทัยฯ (ห ) สิงห์เชียงรายฯ เสมอ
28 20 มี.ค. 64 การท่าเรือฯ (ย ) สิงห์เชียงรายฯ เสมอ
29 24 มี.ค. 64 สุพรรณบุรีฯ (ย ) สิงห์เชียงรายฯ เสมอ
30 28 มี.ค. 64 สมุทรปราการฯ (ห ) สิงห์เชียงรายฯ ชนะ
“กว่างโซ่ง” แชมป์เก่า เหลือเกมมากกว่าทีมอื่นๆอยู่ 1 เกมเป็นเกมที่เลื่อนมานั่นเอง ขณะนี้ สิงห์เชียงรายฯ มี 39 แต้ม 6 นัด ที่เหลือ สิงห์เชียงรายฯ มีเกมเหย้า,เยือน อีก อย่างละ 3 นัด “กว่างโซ่ง” จะได้ 9 แต้ม จาก 6 นัด ของเดิมมี รวมของเดิม 39 แต้มเป็น 48 แต้ม จบอันดับ 7 อย่าลืมว่า สิงห์เชียงรายฯ ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ เอฟเอ คัพ อยู่