เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 13 ก.พ. 65 ร.ต.ท.อำนวย อาทนิตย์ หัวหน้าตำรวจตู้ยามตำบลห้วยสัก และเจ้าหน้าที่งานป้องกัน ทต.ห้วยสัก รับแจ้งเหตุพบคนแขวนคอตาย พื้นที่บ้านโป่งฮึ้ง ม.1 ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จึงประสานพนักงานสอบสวน สภ.เมือง และแพทย์ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ติดถนนทางหลวงหมายเลข 1020 เชียงราย-เทิง ฝั่งขาออกเมืองเชียงรายมุ่งหน้าอำเภอเทิง เป็นบ้านปูนชั้นเดียว เลขที่ 35 ม.1 ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย ผู้ก่อเหตุใช้เชือกแขวนคอกับขื่อบริเวณระเบียงหน้าบ้านซึ่งอยู่ติดกับถนน ได้มีชาวบ้านช่วยเหลือตัดเชือกและนำร่างลงมาปั้มหัวใจช่วยชีวิต ก่อนที่จะส่งต่อให้ทีมแพทย์ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ นำตัวไปรักษา แพทย์พยายามยื้อลมหายใจอย่างสุดความสามารถ แต่ผู้ก่อเหตุขาดอากาศหายใจนานหลายนาที ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตคือนายสุสังข์ ชุ่มมะโน อายุ อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 35 ม.1 ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย ทำงานเป็นพัฒนาการจังหวัดแพร่ ทางญาติเล่าว่า ผู้ตายเครียดปัญหาชีวิตหลายอย่าง ทั้งปัญหาสุขภาพ และเรื่องงาน โดยผู้ตายเป็นชาวเชียงราย เริ่มแรกได้รับการบรรจุทำงานที่บ้านเกิด ก่อนมีโอกาสไปเติบโตในหน้าที่การงานที่ต่างจังหวัด แต่ในช่วงปลายอายุข้าราชการอยากย้ายกลับไปทำงานใกล้บ้าน พยายามทำเรื่องขอย้ายมาที่ จ.เชียงราย เพื่อใช้ชีวิตช่วงท้ายของอายุราชการที่บ้านเกิดและกลับมาดูแลครอบครัว ซึ่งครอบครัวผู้เสียชีวิตทำงานแยกย้ายกันหลายจังหวัด โดยตัวผู้เสียชีวิตทำงานที่ จ.แพร่ ภรรยาทำงานที่ จ.เชียงราย ส่วนลูกสาวและลูกชายทำงานที่ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.พะเยา ตามลำดับ ผู้ตายขอทำเรื่องย้ายกลับบ้านหลายครั้งแต่รอบล่าสุดก็ยังไม่มีรายชื่อได้รับการโยกย้ายกลับบ้านเกิดแต่อย่างได ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในชนวนเหตุให้ผู้ตายใช้เชือกแขวนคอจบปัญหาชีวิต
ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 09.30 น. ผู้ตายได้บอกกับครอบครัวว่าจะออกไปที่บ้านของแม่ ซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกัน ก่อนจะหายไปประมาณ 30 นาที และมีเพื่อนบ้านไปพบเห็นว่านายสุสังข์ใช้เชือกแขวนคอที่หน้าบ้านของพี่สาว ซึ่งได้สร้างทิ้งไว้แต่ยังไม่มีคนมาอยู่ จึงรีบไปเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทางญาติไม่ติดใจในสาเหตุการตาย หลังการชันสูตรศพเสร็จสิ้นทางญาติจะนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาเป็นเวลา 3 วัน ก่อนที่จะให้ รพ.มารับร่างไปเป็นอาจารย์ใหญ่ ตามความประสงค์ที่ผู้ตายได้เคยบริจาคร่างกายไว้ก่อนเสียชีวิต