ฝนฟ้าคะนอง 3 วันติด ยังไม่คลายปัญหาฝุ่น เขตตัวเมืองและอำเภอใกล้เคียง ยังขาวโพลน เกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง – ด้าน เชียงราย PM 2.5 พุ่งที่ 1 ภาคเหนือ
วันที่ 14 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ในช่วงค่ำในพื้นที่หลายอำเภอของ จ.ลำปาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอำเภอทางรอบนอก ได้เกิดฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงขึ้น มา 3 วันติดแล้ว โดยบางพื้นที่เกิดฝนตกหนักลงมา ซึ่งก็ถือว่าคลายอาการศที่ร้อน และแล้ง รวมถึงสถานการณ์ไฟป่า และฝุ่นหมอกควัน ให้เบาลงลงไปได้บาง
ซึ่งวันนี้ พื้นที่ จ.ลำปาง พบจุดฮอตสปอต หรือจุดความร้อน จากไฟป่า และการเผาในที่โล่งแจ้ง เพียง 2 จุด เท่านั้น กระจายใน 2 อำเภอของ จ.ลำปาง โดยถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก หากเทียบกับในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ที่พบจุดฮอตสปอตมากหลายร้อยจุด จากไฟป่าที่โหมไหม้ในพื้นที่ป่า กระจายใน 13 อำเภอ ทำให้เจ้าหน้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนัก ในการเดินเท้าเข้าไปควบคุม เพื่อดับไฟ
กระทั่งในพื้นที่เกิดเกิดพายุฝน และลมแรง จึงทำให้ดับไฟที่ไหม้ป่า และเกิดความชื้นในผืนป่า ไม่ให้ติดไฟ หรือลุกลามไหม้ได้ง่าย ทำให้สถานการณ์ไฟไหม้ป่าในพื้นที่ จ.ลำปาง เริ่มคลายลง แต่ทว่าปัญหาฝุ่นหมอกควันในพื้นที่ จ.ลำปาง ตามที่มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ที่ตั้งอยู่ใน อ.เมือง และ อ.แม่เมาะ ยังคงเกิดปัญหาฝุ่นหมอกควัน
ถึงแม้จะเกิดพายุฝน และลมแรงขึ้นใน จ.ลำปาง แต่ก็เกิดขึ้นในบางแห่ง รอบนอก ไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ตัวเมืองลำปาง อ.เมือง หรือเขต อ.แม่เมาะ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกัน จึงทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ PM 2.5 ยังไม่คลี่คลายลง พื้นที่ยังขาวโพลนจากฝุ่นหมอกควันที่ยังปกคลุม โดยวันนี้พบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานสูงสุดที่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร และ ต.พระบาท อ.เมือง ซึ่งเป็นเขตตัวเมืองลำปาง 69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงราย รายงานว่า สถานการณ์หมอกควันที่ชายแดนไทย-เมียนมาทางด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังคงวิกฤติต่อเนื่อง ล่าสุดเช้านี้วัดปริมาณ PM2.5 ได้ 193 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงที่สุดใน 17 จังหวัดภาคเหนือ แม้ว่าจังหวัดเชียงรายจะได้ประสานกับจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพื่อขอให้มีมาตรการงดเผาทุกชนิด
แต่ทว่าในพื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดนยังพบว่าเกิดไฟป่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ตะเข็บชายแดนฝั่งตรงข้ามกับบ้านผาฮี้ หมู่ที่ 11 ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย ซึ่งไฟป่ามีการลุกลามข้ามมายังฝั่งไทย จนเจ้าหน้าที่สถานี ชุดควบคุมไฟป่าที่ 6 สถานีควบคุมไฟป่าดอยตุง พร้อมประชาชนจิตอาสา ต้องออกไปทำการดับไฟและพัฒนาแนวกันไฟเพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน
ไฟป่าในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นพิษในพื้นที่อำเภอแม่สาย ยังคงวิกฤติต่อเนื่องมานานร่วมครึ่งเดือนแล้ว เนื่องจากดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ในระดบสีแดงต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา
และล่าสุดเช้าวันนี้ วัดปริมาณ PM2.5 ได้ 193 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร วัดปริมาณ PM10 ได้ 252 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงที่สุดใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ประชาชนควรป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกไปในสถานที่โล่งแจ้ง