สมาคมโรงแรมเชียงรายร่วมกันลดราคาเกินครึ่งกระตุ้นเศรษฐกิจไปถึงไฮซีซั่นหน้า
วันที่ 26 มี.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามคณะรัฐมนตรีกำหนดวันหยุดประจำภาคเหนือ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ทำให้มีวันหยุดยาว 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2564 ทางผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและที่พักต่าง ๆ ใน จ.เชียงราย ได้หารือและกำหนดให้มีการลดราคาค่าบริการทั่วจังหวัด เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือน จ.เชียงราย มากขึ้น
หลังจากต่างประสบกับภาวะซบเซาจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 มาตลอดปี 2563-ต้นปี 2564 ที่ผ่านมา เบื้องต้นสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย แจ้งว่าจะมีการลดราคาลงอย่างน้อย 50-70%
โดย นายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย เปิดเผยว่าสถานการณ์ในปัจจุบันถือว่าพฤติกรรมของผู้เดินทางไปท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต โดยจะเลือกที่พักกันมากขึ้น เพราะมีที่พักที่ว่างให้เลือก เนื่องจากมีภาวะซบเซาดังกล่าว ทำให้ผู้เดินทางมีทางเลือกและอำนาจต่อรองกับผู้ให้บริการมากกว่า
แม้แต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้มีวันหยุดยาวอย่างน้อย 9 วัน กลับพบว่าอัตราการจองห้องพักเข้าไปก็ยังมีน้อยมาก ดังนั้นผูประกอบการโรงแรมและที่พักจึงต้องเฝ้าดูสถานการณ์จากนั้นปรับกลยุทธิ์รองรับ โดยเฉพาะในเดือน พ.ค.-ก.ค.จะเข้าสู่ช่วงฤดูโลว์ซีซั่นด้วย จึงจะใช้กลยุทธิ์ใหม่นี้ไปจนตลอดโลว์ซีซั่นด้วย
“เมื่อได้คุยกันกับสมาชิกในช่วงวันหยุดยาว มีความเห็นว่าจะร่วมกันลดราคาลง 50-70% ของราคาที่เป็นมาตรฐานก่อนช่วงเกิดวิกฤตไวรัสโควด-19 เช่น ห้องพักที่มีราคา 1,000 บาท ก็จะลดลงเหลือประมาณ 600 บาท บางแห่งเหลือ 400 บาท หรือโรงแรมใหญ่ ๆ จากคืนละ 4,000 บาท ก็จะเหลือเพียง 2,000 บาท เนื่องจากสถานการณ์ในช่วงนี้แม้จะเป็นวันหยุดยาวหลายวัน แต่การท่องเที่ยวก็ได้เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว” นายวิโรจน์ กล่าว
ทั้งนี้ หลังการแจ้งลดราคาพบว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี คาดว่าจะใช้วิธีการดังกล่าวไปตลอดโลว์ซีซั่น รวมทั้งเฝ้าติดตามสถานการณ์ตามกระแสที่ว่ารัฐบาลอาจจะเปิดประเทศหลังมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 กันได้ระดับหนึ่งแล้วในเดือน ต.ค. 2564 จากนั้นค่อยปรับกลยุทธ์กันตามสถานการณ์กันต่อไป
ผู้สื่อข่าวแจ้งว่าสำหรับสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย เป็นเครือข่ายของสมาคมสหพันธ์การท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย ที่มีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการโรงแรมจำนวน 80 แห่ง ทั้งโรงแรมขนาดใหญ่และทั่วไป มีห้องพักรวมกันประมาณ 4,000 ห้อง ส่วนพื้นที่ทั่ว จ.เชียงราย มีห้องพักในระบบประมาณ 400 แห่ง ห้องพักรวมกันกว่า 20,000 แห่ง
ซึ่งในช่วงก่อนเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 จะมียอดจองห้องพักจากนักท่องเที่ยวในฤดูท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นประมาณ 80-90% และช่วงเวลาปกติประมาณ 50-60% แต่หลังจากเกิดวิกฤติไวรัสโควิด-19 ต่างประสบปัญหากันโดยถ้วนหน้าเหมือนกันทั่วประเทศ