โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืนเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรไม่มีที่ดินทำกินให้มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง และได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืน วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์เชียงราย ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ตอกย้ำถึงความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะขยับตัวเองจากศูนย์สู่การเป็นศูนย์เรียนรู้ได้แล้ว ยังสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศ โครงการ 1 จังหวัด 1 ศูนย์เรียนรู้ได้สำเร็จ
นายเอก วรรณประทีป รองผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เผยว่า วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์เชียงราย เกิดจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นไม่มีที่ดินทำกิน และได้เข้าบุกรุกจับจองพื้นที่ทำไร่ในเขตพื้นที่ป่าไม้ รอบดอยอินทรีย์กว่า 800 ไร่ ส่งผลให้สภาพป่าและสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย อีกทั้งบริเวณพื้นที่รอบเขตป่า มีนายทุนกว้านซื้อที่ดินเพื่อประกอบกิจการจำนวนมาก
พระอาจารย์วิบูลย์ ธมฺมเตโช ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดพุทธดอยอินทรีย์ จึงได้เข้ามาแก้ปัญหาด้วยการตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และยื่นหนังสือขอรับความช่วยเหลือมายัง บจธ. ให้ดำเนินการจัดซื้อที่ดินรวม 84 ไร่ จัดสรรให้กับสมาชิก 60 ครอบครัว โดยจัดสรรที่ดินให้ครอบครัวละ 1 ไร่ เพื่อทำกินและที่อยู่อาศัย โดยยึดแนวทางศาสตร์พระราชา เกษตรทฤษฎีใหม่ รวมทั้งมีการประยุกต์ใช้โคก หนอง นา โมเดล ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่
สมาชิกทั้งหมดเลือกทำเกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัยจากสารพิษ รวมทั้งปลูกพืชผักอายุสั้น ไม้ผล และไม้ยืนต้นประเภทไม้ทองคำ เช่น ยางนา ประดู่ และพะยูง เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการปรับสภาพพื้นที่ ขุดลำเหมือง ขุดสระน้ำในพื้นที่ส่วนกลาง แล้วทำระบบน้ำต่อคลองไส้ไก่ในแต่ละแปลง ทำถนน ฯลฯ โดยการมีส่วนร่วมของสมาชิกทุกคน จนประสบความสำเร็จ
เมื่อได้สนับสนุนที่ดินทำกินและมีการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเต็มพื้นที่ จนกลายเป็นแบบอย่างการบริหารจัดการที่ดินของ บจธ. อย่างยั่งยืน มีประชาชนทั่วไป หลายหน่วยงาน และคณะต่างๆในจังหวัดเชียงราย รวมทั้งบุคคลภายนอก เข้ามาศึกษาดูงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่รู้จักกันในชื่อศูนย์การเรียนรู้วัดดอยอินทรีย์ หรือหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงดอยอินทรีย์ ล่าสุด ยังได้รับรางวัลรองชนะเลิศตามโครงการ 1 จังหวัด 1 ศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต้นแบบ ประจำปีงบประมาณ 2564.