ภูมิภาค
เชียงรายผู้ป่วยโควิดหายแล้ว 155 ราย
วันอังคาร ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2564, 15.53 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
วันที่ 27 เม.ย.64 สถานการณ์ การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในจังหวัดเชียงราย โดยทางสำนักงานสาธารณะสุขเชียงรายรายงานยอดผู้ป่วยเพิ่มจำนวน 7 ราย ยอดสะสมจังหวัดเชียงราย 307 ราย ติดเชื้อในจังหวัด 196 ราย ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 111 ราย โดยในจำนวนนี้พบว่า มีผู้ป่วยที่หายป่วยแล้ว 155 ราย โดยยังรักษาอยู่ 152 ราย โดยรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ 64 ราย และโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์แม่ฟ้าหลวง 88 ราย โดยผู้ป่วยสะสมรายอำเภอแยกเป็น เมืองเชียงราย 109 ราย แม่สาย 100 ราย พาน 30 ราย แม่จัน 11 ราย แม่ลาว 10 ราย แม่ฟ้าหลวง 10 ราย เทิง 6 ราย เชียงของ 6 ราย เวียงป่าเป้า 6 ราย เชียงแสน 5 ราย แม่สรวย 4 ราย พญาเม็งราย 4 ราย ขุนตาล 3 ราย เวียงแก่น 2 ราย เวียงชัย 1 ราย
ด้าน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มีคำสั่งที่ 19/2564 กำหนดพื้นที่ตำบลควบคุมเพิ่มเติมกรณีไวรัสโควิด-19 โดยได้แก่ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ต.ทรายขาว อ.พาน และ ต.บัวสลี อ.แม่ลาว เนื่องจากพบจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงขึ้น โดยได้มอบหายให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) แต่ละอำเภอ ดำเนินการควบคุม ติดตาม ดูแล กลุ่มเสี่ยงให้กักตนเองอยู่ที่บ้านหรือที่พักอาศัย หากฝ่าฝืนให้ดำเนินคดีได้ รวมทั้งให้มีการใช้มาตรการป้องกันในพื้นที่ งดกิจกรรมที่มีความเสี่่ยง หากมีความจำเป็นสามารถแจ้งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย พิจารณาสั่งปิดสถานที่เสี่ยงหรือห้ามเข้าและออกได้เป็นกรณีๆ ไป ซึ่งตามคำสั่งนี้ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,00 บาท ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อปี 2558
ด้านสำนักงานสาธารณสุข อ.พาน ได้ลงพื้นที่ ต.ทรายขาว เนื่องจากพบว่ามีประชาชนที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงจำนวนกว่า 52 ราย โดยเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 34 ราย และเสี่ยงต่ำ 18 ราย โดยเป็นกลุ่มเสี่ยงที่พื้นที่เนื่องจากเป็นผู้ที่ทำงานในจังหวัดอื่น บางกลุ่มเป็นคนจากภาคกลางแล้วเดินทางไปทำงานที่ อ.พาน กลับมารดน้ำดำหัวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเขต ต.ทรายขาว พบผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้แล้ว 10 ราย และล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ส่งผลตรวจไปยังห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลพานและออกคำสั่งให้กักกลุ่มเสี่ยงสูงตามคำสั่งคณะกรรมการ จ.เชียงราย ทั้ง 34 รายดังกล่าวเป็นเวลา 14 วัน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่