พระธาตุเก่าแก่ที่มีความสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย นอกจากมีทำเลยอดเยี่ยมสำหรับชมวิวที่สามารถมองเห็น ทิวทัศน์แห่งขุนเขาฝั่งไทยที่ทอดไกลออกไปถึงฝั่งเมียนมาร์แล้ว องค์พระธาตุยังมีประวัติความเป็นมายาวนาน และเป็นศูนย์รวมศรัทธาของประชาชนชาวอำเภอแม่สาย ตามตำนานพระธาตุกล่าวว่า พระองค์เวาผู้ครองนครโยนก เป็นผู้สร้างขึ้นเพื่อเก็บรักษาพระเกศธาตุ เมื่อปี พ.ศ. 364 ทั้งนี้ คำว่า เวา เป็นภาษาล้านนา แปลว่า แมงป่อง โดยองค์พระธาตุนั้นได้รับการบูรณะหลายครั้ง และการบูรณะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดได้มีการค้นพบผอบใส่ พระสารีริกธาตุซึ่งได้บรรจุไว้ที่ฐานเจดีย์ดังเดิม จากนั้นมีการวางศิลาฤกษ์แล้วก่อองค์พระเจดีย์ดังที่เห็นในปัจจุบัน อาณาบริเวณรอบพระธาตุแห่งนี้เต็มไปด้วยความร่มรื่น และยังมีรูปปั้นของพระนเรศวรมหาราช พระเอกาทศรถ และพระสุพรรณกัลยา หันหน้าเข้าหาดินแดนเมียนมาร์ เช่นเดียวกับรูปปั้นของพระเจ้าบุเรงนองจากฝั่งเมียนมาร์ ที่หันหน้าเข้ามาฝั่งไทย อันเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีของสองประเทศ นอกจากนี้ยังมีปราสาทไพชยนต์ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อประกาศคุณงามความดี และเพื่อสักการะพระอินทร์ (องค์อัมรินทราธิราช) โดยองค์ปราสาทนั้น มีความสวยงามตามแบบศิลปะล้านนา อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 เหนือ (ตรงกับเดือน 3 ใต้ซึ่งก็คือวันมาฆบูชา) จะมีการจัดงานประเพณีนมัสการพระธาตุเป็นประจำทุกปี และในวันสงกรานต์จะ มีการสรงน้ำพระ ที่มีกิจกรรมมากมาย รวมทั้งการจำหน่ายอาหารพื้นเมืองและของที่ระลึกของดีเมืองเชียงรายให้ นักท่องเที่ยวได้จับจ่ายกันอย่างสนุกสนาน ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 5373 1527