เคลียร์ข่าวชัด 7HD – ผู้ติดเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรม ยังเพิ่มไม่หยุด และมีคลัสเตอร์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นหลายจุด ข้อสันนิษฐานหนึ่งมองกันว่า เป็นเพราะยังมีการลักลอบนำเข้าแรงงานประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา ทำให้การควบคุมการระบาดในอุตสาหกรรมทำได้ยาก เพราะอะไร วันนี้มาเคลียร์กันให้ชัด
ตัวเลขจาก ศบค.ล่าสุด พบว่าคลัสเตอร์ที่พบในภาคอุตสาหกรรม เดิมที่มี 4 ที่หลัก ๆ คือ โรงงานแคล คอมพ์ เพชรบุรี ตามมาด้วยในนิคมอุตสาหกรรม ชลบุรี, โรงงานผลิตถุงมือยาง ตรัง และล่าสุดคือ โรงงานแปรรูปไก่ สระบุรี ไล่เรียงกันมาตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 30 พฤษภาคม ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังคัดกรองกันไม่จบ และยอดผู้ติดเชื้อก็ยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ขณะที่ล่าสุดวันนี้ พบคลัสเตอร์ใหม่อีก 5 โรงงาน คือ โรงงานค้าไม้ สมุทรสาคร, ผลิตภาชนะพลาสติก ชลบุรี, โรงน้ำแข็งแพรกษา, โรงงานผลิตสายนำสัญญาณ และตัดเย็บเสื้อผ้า ในจังหวัดสมุทรสาคร รวมผู้ติดเชื้อกว่า 160 คน
สังเกตได้ว่าทุกโรงงานที่บอกมา ส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานประเภทที่ใช้แรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเมียนมา กัมพูชา และลาว ซึ่งธรรมชาติของแรงงานเหล่านี้จะอยู่กันเป็นกลุ่ม และเคลื่อนไหวตัวไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับเข้า การย้ายออก หรือแม้กระทั่งชักชวนเพื่อนร่วมชาติ ญาติพี่น้อง ให้ข้ามมาขายแรงงาน โดยผ่านกลุ่มนายหน้าที่คุ้นเคยกัน
ไม่เพียงจะไม่อยู่นิ่ง การอยู่กินก็ชอบที่จะรวมกลุ่มกัน และออกนอกโรงงานไปหาซื้ออาหารสดมาปรุง หมายความว่าพวกเขาต้องเข้าไปในชุมชน ร้านตลาด หรือตลาดนัดแผงลอย ที่เคลื่อนตัวไปขายใกล้ ๆ โรงงาน นี่ก็เลยทำให้การส่งต่อเชื้อโควิด-19 จากแรงงานไปในชุมชน หรือจากชุมชนเข้ามาในโรงงาน เกิดขึ้นได้ง่าย
อย่างที่บอก ความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยังมีอยู่ และการชักชวนเพื่อนร่วมชาติ หลบหนีเข้ามาทำงาน จึงมีให้เห็นเสมอ อย่างที่คุณผู้ชมเห็นอยู่นี้ เป็นการลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมายรายล่าสุด ซึ่งนายหน้าใช้วิธีเอาแรงงาน 11 คน ซ่อนมาในถังน้ำ ให้นั่งเบียดเสียดกัน โดยเปิดฝาถังไว้ เพื่อระบายอากาศ หวังหลบสายตาเจ้าหน้าที่ในจังหวัดกาญจนบุรี โดยจะนำทั้งหมดไปส่งให้โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดปทุมธานี แต่สุดท้ายก็โดนจับอยู่ดี
ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่าตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม มีการจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมืองถึง 1,248 คน จาก 3 สัญชาติหลัก ๆ คือ สปป.ลาว เมียนมา และกัมพูชา ขณะที่สัปดาห์แรกของเดือนนี้ ก็ปาเข้าไป 250 คนแล้ว นี่ทำเอาตำรวจถึงขึ้นกุมขมับ จับได้รายวัน แถมยังมีที่เล็ดลอดเข้ามาได้อีกไม่รู้เท่าไหร่ ซึ่งนี่จะเป็นอีกคลัสเตอร์ที่พร้อมจะกระจายไปทุกจุดที่เขาไปอยู่ด้วย
รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง บอกว่า จุดที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ ภาคตะวันออก แถบสระแก้ว และภาคตะวันตก แถบกาญจนบุรี เพราะเป็นพื้นที่ราบ การเข้าออกทำได้หลายจุด แถมยังมีช่องทางธรรมชาติที่ลาดตระเวนไม่ถึงอีกมาก ผนวกกับคนไทยชายแดนให้ความร่วมมือ โดยรับออเดอร์หาแรงงานส่งให้กลุ่มอุตสาหกรรม หากจับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน แรงงานทั้งหมดก็จะเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้โควิดแพร่ระบาด เพราะคนเหล่านี้ไม่ผ่านการตรวจคัดกรอง หรือกักตัว แม้แต่คนเดียว
รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังบอกด้วยว่า ตอนนี้กำลังเร่งขยายผลการจับกุมเคสก่อนหน้านี้ โดยทำแผนที่หาความเชื่อมโยง พบว่ากลุ่มนายหน้ามีด้วยกัน 20 กลุ่มหลัก ๆ บางกลุ่มแตกแขนงออกไปมากกว่า 3-4 คน ซึ่งกำลังร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อขจัดต้นตอ นำเชื้อโควิดเข้ามาแพร่กระจายเพิ่ม
อีกกลุ่มที่น่าห่วงคือ การลักลอบของแรงงานไทย ออกไปทำงานในกาสิโน หรือบ่อนออนไลน์ ในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างกัมพูชา แถบจังหวัดสระแก้ว และเมียนมา แถบท่าขี้เหล็ก ซึ่งเขาบอกว่าตอนนี้ต้องการสูงมาก เนื่องจากคนไทยที่ทำงานก่อนหน้านี้ พากันหลบหนีกลับเข้ามาหลังติดเชื้อโควิด-19 หวังกลับมารักษาตัว และรับวัคซีน เฉพาะที่สระแก้ว ว่ากันว่ากลับมาเป็นพัน และกว่าครึ่งติดเชื้อโควิดกลับมาด้วย
และล่าสุดก็ 4 สาวไทยกลุ่มนี้ เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พร้อมคนขับรถ ซึ่งพวกเธออ้างว่าแค่มาท่องเที่ยว แต่นี่กลับขัดต่อประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย ศาลก็เลยมีคำสั่งปรับคนละ 5,000 บาท ฐานเดินทางจากพื้นที่สีแดง เข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ไม่ผ่านการกักตัว หรือฉีดวัคซีนให้ครบตามข้อกำหนด ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่โดนปรับ เพราะผิดหลักเกณฑ์