ประชาชนในหลายพื้นที่ไม่สนใจคำสั่งยังมีการเผาสวนเผาไร่ และเผาป่ากันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวป่าริมถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ ช่วงรอยต่อระหว่างพื้นที่อำเภอแม่ลาวกับอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ก่อให้เกิดหมอกควันมาสมทบในพื้นที่มากยิ่งขึ้น โดยกรมควบคุมมลพิษได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศล่าสุดวันนี้ (3 เม.ษ.) พบว่าจุดตรวจวัดพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย ขึ้นไปอยู่ระดับสีแดงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 แล้ว โดยวัดค่าpm 2.5 ได้ 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าpm 10 วัดได้ 229 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่จุดตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ชายแดนอำเภอแม่สาย ซึ่งอยู่ในระดับสีแดงนานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว พบว่าวันนี้ (3 เม.ษ.) ยังมีค่าฝุ่นละอองในอากาศที่สูงโดยวัดค่าpm 2.5 ได้ถึง 381 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าpm 10 วัดได้ 480 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นค่ามีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
จากสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้อากาศโดยทั่วไปของจังหวัดเชียงรายขมุกขมัวตลอดทั้งวันหรือเรียกว่าฟ้าหลัว ส่งผลต่อการสัญจรของยานพาหนะและประชาชนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นควันขณะขับรถ ซึ่งล่าสุดทางนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จัดกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 1,000 นายเข้าไปควบคุมพื้นที่ป่าทั้ง 18 อำเภอเพื่อไม่ให้เกิดการลักลอบเผาป่าได้อีกและประสานให้ทุกพื้นที่ระดมฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่ตัวเองเพื่อสร้างความชุ่มชื้นในอากาศลดปริมาณฝุ่นละอองให้น้อยลงด้วย.